ฮุน เซน แฉ! ไทยคือศูนย์กลางอาชญากรรมออนไลน์-กัมพูชาเหยื่อ

ความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับความตึงเครียดครั้งสำคัญ หลังจากสมเด็จฮุน เซน ได้ออกมาแสดงความเห็นและวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อ "อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรีของไทย โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหาเรื่องอาชญากรรมออนไลน์และข้อกล่าวหาเรื่องความจงรักภักดี การโจมตีด้วยถ้อยคำที่เผ็ดร้อนนี้ได้เปิดประเด็นความขัดแย้งที่น่าจับตาในระดับภูมิภาค

การกล่าวหาเรื่องการประจบสอพลอและการไม่ร่วมงาน สมเด็จฮุน เซน ได้กล่าวโจมตีนายกรัฐมนตรีไทยอย่างดุเดือด โดยระบุว่า "อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรีของไทย ได้กล่าวโจมตีผู้บัญชาการทหารของตนเพียงเพื่อประจบสอพลอพระมหากษัตริย์ของตนเอง สมเด็จฮุน เซน ชี้ว่า หากเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในกัมพูชา การกระทำนี้จะถือเป็นกบฏ ด้วยเหตุนี้ สมเด็จฮุน เซน จึงได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า ไม่สามารถทำงานร่วมกับ "อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรีของไทยคนปัจจุบันได้ และกัมพูชาจะรอทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรีของไทยคนใหม่แทน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อผู้นำไทยคนปัจจุบัน

ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และการบิดเบือนสถานการณ์ ประเด็นหลักอีกประการหนึ่งของการวิพากษ์วิจารณ์จากสมเด็จฮุน เซน คือเรื่องอาชญากรรมออนไลน์ โดยเขากล่าวว่า นายกรัฐมนตรีของไทยกำลังโยนความผิดบิดเบือนสถานการณ์อาชญากรรมทางออนไลน์ให้เป็นความผิดของกัมพูชา นอกจากนี้ สมเด็จฮุน เซน ยังได้ชี้แจงถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประกาศปิดพรมแดนเพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน นายกรัฐมนตรีไทยได้ประกาศว่าจะปิดพรมแดนเพื่อปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วไทยประกาศปิดพรมแดนไปโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน ซึ่งเป็นการเน้นย้ำว่าข้อมูลที่นายกรัฐมนตรีไทยกล่าวถึงไม่ถูกต้อง

สมเด็จฮุน เซน ยังกล่าวอ้างอย่างหนักแน่นว่า กัมพูชาตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงทางออนไลน์ ที่มีต้นเหตุมาจากประเทศไทย  เขายังให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า อาชญากรทางออนไลน์ทั้งหมดได้รับการอำนวยความสะดวกจากเจ้าหน้าที่ทางการของไทย เนื่องจากกัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ไม่มีเที่ยวบินขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับการขนส่งอาชญากรเหล่านี้ได้โดยตรง  และย้ำว่า กัมพูชาเป็นประเทศเดียวที่ตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงทางออนไลน์จากประเทศไทย เพราะมีเพียงไทยเท่านั้นที่มีเที่ยวบินระหว่างประเทศสำหรับก่ออาชญากรรมนี้

สมเด็จฮุน เซน ยังกล่าวหาอย่างตรงไปตรงมาว่า ประเทศไทยเต็มไปด้วยอาชญากรรมและเป็นศูนย์กลางของอาชญากรรมหลอกลวงทางออนไลน์ แต่นายกรัฐมนตรีของไทยกลับกล่าวหา 'กัมพูชา' ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว 'กัมพูชา' คือผู้ตกเป็นเหยื่อจากไทย  และได้เรียกร้องให้เครือข่ายสื่อสำนักข่าวของกัมพูชาช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับอาชญากรรมทางออนไลน์ในประเทศไทยให้กว้างขวาง

คำเตือนถึงประชาชนชาวไทย ในการวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรงนี้ สมเด็จฮุน เซน ยังได้ส่งสารตรงถึงประชาชนคนไทย โดยกล่าวว่า ให้ประชาชนคนไทยให้จับตาดูเล่ห์เหลี่ยมนายกรัฐมนตรีของไทยคนปัจจุบันอย่างใกล้ชิด ที่ไม่มีความจงรักภักดีต่อประชาชนของตนเอง และไม่มีความซื่อสัตย์ต่อประเทศพันธมิตร  ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่ไว้วางใจในตัวผู้นำไทยอย่างชัดเจน

การวิพากษ์วิจารณ์ของสมเด็จฮุน เซน ต่อ "อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรีของไทย สะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจอย่างลึกซึ้งทั้งในประเด็นภายในประเทศและการจัดการอาชญากรรมข้ามชาติ เขาไม่เพียงแต่ปฏิเสธที่จะทำงานร่วมกับผู้นำไทยคนปัจจุบัน แต่ยังกล่าวหาไทยว่าเป็นต้นตอและศูนย์กลางของอาชญากรรมออนไลน์ ข้อกล่าวหาเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงรอยร้าวในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้าน จะเห็นได้ว่าเรื่องที่ สมเด็จฮุน เซน พูดนั้น ไม่ค่อยมีอะไรใหม่มากนักแต่เป็นการตอบโต้รัฐบาลไทยมากกว่า