ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
“ปราสาทสายฟ้า” จัด “ตูเญซ-ดิโอโก้” เปิดรังรับ “กิเลนผยอง” ที่แข้งหลักเจ็บหลายราย ในศึกบิ๊กแมตช์ โตโยต้า ลีกคัพ วันนี้ 18.00 น.
ฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ 2017 รอบ 8 ทีมสุดท้าย วันนี้ลงสนามครบทั้ง 4 คู่ โดยซูเปอร์บิ๊กแมตช์ประจำรอบนี้ ที่ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงไทยลีกพบ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงไทยลีก เวลา 18.00 น.
สภาพความพร้อม
ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รอบที่ผ่านมาต้องเล่นถึง 120 นาที ก่อนบุกชนะจุดโทษ ชลบุรี เอฟซี ด้วยสกอร์รวม 6-5 ทำให้ชนะ 10 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการแล้ว ยังไม่แพ้ใครเป็นนัดที่ 21 ติดต่อกัน
ขณะที่ความพร้อม มีข่าวก่อนเกมว่า นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และ พรรษา เหมวิบูลย์ ได้รับบาดเจ็บจากเกม ทีมชาติ แต่คาดว่าไม่หนักมาและน่าผ่านความฟิตลงสนามเช่นเดียวกับ จักรพันธ์ แก้วพรม พร้อมแกนหลักอย่าง อันเดรส ตูเญซ ,แจ็คสัน โคเอลโญ ชาชา และ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต
ด้าน กิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด รอบที่ผ่านมาเจองานหนักเช่นกัน เมื่อเปิดบ้านแซงชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-1 ฟอร์มช่วงหลังชนะ 6 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการแล้ว ยังไม่แพ้ใครเป็นนัดที่ 18 ติดต่อกัน
ขณะที่ความพร้อมเกมนี้ มีข่าวก่อนเกมว่า 4 ผู้เล่นอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา และ ทริสตอง โด มีอาการบาดเจ็บ จากเกมทีมชาติ แต่คาดว่า น่าจะมีในรายของ ทริสตอง โด คนเดียวที่จะไม่พร้อมลงสนาม นอกนั้นพร้อมลงสนามทั้งหมด ส่วนแนวรุกอย่าง เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดซ และ เลอันโดร อัสซัมเซา ฟิตเต็มที่พร้อมลงล่าตาข่ายในเกมนี้
สถิติและข้อมูลที่น่าสนใจ
- พบกันมาทั้งหมด 25 นัดรวมทุกรายการ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะ 12 นัด เมืองทอง ชนะ 3 นัด และเสมอกัน 10 นัด
- ล่าสุดที่พบกันเสมอ 1-1 ที่ เอสซีจี สเตเดี้ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2017 เลกสอง
- บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เล่นในบ้าน 9 นัดหลังสุดคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งทุกนัด
- เอสซีจี เมืองทองฯ 6 นัดหลังสุดในฐานะทีมเยือนก็ไม่แพ้ใคร (รวมทุกรายการ)
- บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศรายการนี้ ถึง 7 ปีติดต่อกัน นับตั้งแต่ฤดูกาล 2010
โปรแกรมฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ 2017
รอบ 8 ทีมสุดท้าย
18.00 น. แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี - บีอีซี เทโร
19.00 น . ราชบุรี มิตรผล เอฟซี - สุโขทัย เอฟซี
19.00 น.เชียงราย ยูไนเต็ด -อุบล ยูเอ็มที
ขอบคุณภาพจาก FB : BURIRAM UNITED และ Muangthong United FC.