svasdssvasds

พลิกพื้นที่ กลายเป็นเงิน ลดภาระหนี้สิน

พลิกพื้นที่ กลายเป็นเงิน ลดภาระหนี้สิน

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

 

เกษตรกรในปัจจุบันต่างหันมาทำเกษตรผสมผสาน ซึ่งจะต้องมีการวางแผนการผลิตเพื่อลดต้นทุนการ ความเสี่ยงก็จะลดลงตาม อย่างเกษตรกรรายหนึ่งเดิมทีมีภาระหนี้สินจากการทำนา ปัจจุบันเขานำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ โดยแบ่งเนื้อที่ทำกินให้ได้สัดส่วนตามความเหมาะสม ก็ทำให้ภาระหนี้สินบรรเทาลง

พื้นที่กว่า 15 ไร่ ในอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ของนางนงเยาว์ มูลสอาด หนึ่งในสมาชิกสหกรณ์นิคมท่ายางจำกัด ทำเกษตรผสมผสานทั้งทำนา ปลูกผักปลอดภัย เลี้ยงหมู เป็ด และโค มานานกว่า 10 ปี โดยเดินตามรอยพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในการดำรงชีวิตและยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและผู้อื่น

พลิกพื้นที่ กลายเป็นเงิน ลดภาระหนี้สิน

นางนงลักษณ์ เล่าว่า หลายปีก่อนมีปัญหาหนี้สินอย่างรุนแรงจากการทำนา จึงเรียนรู้และน้อมนำหลักคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จนกระทั่งเกิดเป็นเกษตรผสมผสานเพียงแค่แบ่งเนื้อที่ทำนา ปลูกพืชผัก และเลี้ยงสัตว์ ให้ได้ตามสัดส่วนที่เหมาะสม จากนั้นเริ่มมีรายได้ที่มั่นคงและชำระหนี้สินได้ในที่สุด

ด้านนายสายันต์ สนใจ ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์ท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า การจัดตั้งกลุ่มสมาชิกนี้ เพื่อให้เกษตรกรในอำเภอท่ายางมีความสามัคคีและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี โดยใช้ศาสตร์ของพระราชาเรื่องทฤษฎีใหม่ ประกอบด้วยกัน 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 จัดสรรพื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัย ขั้นที่ 2 ให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันดำเนินการทั้งการผลิต การตลาด และความเป็นอยู่ ขั้นที่ 3 ให้เกษตรกรหาแหล่งเงินทุนในการทำธุรกิจและพัฒนาคุณภาพชีวิต

พลิกพื้นที่ กลายเป็นเงิน ลดภาระหนี้สิน

ชีวิตความเป็นอยู่ของสมาชิกสหกรณ์ท่ายางนั้นเน้นความสุขโดยรวมเป็นหลักและเรียนรู้ปฏิบัติอย่างยั่งยืน ชีวิตที่พอเพียงจะมีความสุขได้ต้องอยู่อย่างเพียงพอ ใช้เท่าที่มีและไม่มีภาระหนี้สิน จึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด

[embed]https://youtu.be/8QTPPM5_40w[/embed]

related