เอกชนร้องกรมศุลฯ ขยายเวลาคืนภาษีส่งออก อีก 6 เดือน

นายกสมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย เรียกร้องกรมศุลกากร ขยายเวลาขอคืนภาษีนำเข้าผลิตเพื่อส่งออก เพิ่มจากที่ พ.ร.บ.ศุลกากร ฉบับใหม่ ไปอีก 6 เดือน

นายยรรยง ตั้งจิตต์กุล นายกสมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเริ่มบังคับใช้ พ.ร.บ. ศุลกากรฉบับใหม่ในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ ในภาพรวมของกฏหมายถือว่าดีที่ปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน มุ่งอำนวยความสะดวกและลดพิธีการขั้นตอนปฏิบัติน้อยลง อีกทั้งยังลดความกังวลของเอกชน เช่น การลดอายุความของการประเมินภาษีจากเดิม 10 ปี เหลือ 3 ปีขยายเวลาได้อีก 2 ปีรวมเป็นสูงสุด 5 ปีต้องให้ได้ข้อสรุป จากอดีตภาคเอกชนต้องเสี่ยงกับค่าปรับย้อนหลังร้อยละ 1 ต่อเดือนนานถึง 10 ปี ส่วนอัตราโทษยังลดลงอยู่ที่ 0.5-4 เท่าขึ้นอยู่กับฐานความผิด หรือ ไม่เกินมูลค่าอากรที่ยังจัดเก็บไม่ครบ

นอกจากนี้ในกระบวนการอุทธรณ์ประเมินภาษีอากร ยังปรับปรุงเรื่องคณะกรรมการอุทธรณ์จากเดิมมีเพียง 1 คณะ ให้มีหลายคณะที่มีกรรมการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทำให้การยุติข้อขัดแย้งเร็วขึ้นจากเดิม 4 ปี เหลือสูงสุดไม่เกิน 270 วัน หรือ ไม่เกิน 9 เดือน

แต่ทั้งนี้ ภาคเอกชนยังมีข้อกังวลบางด้าน เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการและ เงื่อนไขของตัวแทนออกของ หรือ ชิปปิ้ง ที่กรมศุลกากรจะออกกฏหมายลูก หรือ ประกาศกรมฯ ควรเปิดช่องให้ชิปปิ้งนอกระบบ ทำธุรกิจได้ภายใต้กฏเกณฑ์ที่รัดกุม เพื่อการแข่งขันที่เป็นธรรมและลดปัญหาการทุจริต จากปัจจุบันมีกลุ่มชิปปิ้งในรูปนิติบุคคลจำนวน 2,500-3,000 บริษัทที่ขึ้นทะเบียนกับกรมศุลกากร

รวมทั้ง เกณฑ์การปฏิบัติการขอคืนภาษีอากรนำเข้าสินค้ามาผลิตเพื่อการส่งออก ตามมาตรา 29 ของกฏหมายใหม่ หรือ มาตรา 19 ทวิเดิมนั้น ต้องการให้ ประกาศกรมศุลกากร ที่จะออกมาควรขยายเวลาขอคืนภาษีต่อเพิ่มจากที่กฏหมายกำหนดอีก 6 เดือน จากที่ระบุให้ขอคืนภาษีภาย ใน6เดือนนับจากวันส่งสินค้าออกนอกประเทศและต่อได้อีกครั้งเดียว 6 เดือน