จนท.เตรียมแผนย้าย "ช้างป่าพิษณุโลก" ไปรักษาที่ลำปาง

คืบหน้าอาการช้างป่าที่ถูกน้ำป่าพลัดตกคลองชมพูจนสามารถนำขึ้นมาได้ ขณะนี้ต้องใช้เชือกพยุงอยู่เพื่อให้ช้างทรงตัว ช้างเริ่มมีแรงมากขึ้น กินอาหารได้ แต่ได้รับบาดเจ็บที่ขาหลังทั้งสองข้าง วันนี้ทางเจ้าหน้าที่สำนักอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 11 ทีมสัตวแพทย์สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง วางแผนหาวิธีการขนย้ายเพื่อไปรักษาเร็วที่สุด

วันที่ 19 ตค. 60-- เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือช้างป่าเพศผู้ที่ถูกน้ำป่าพลัดตกคลองชมพูจนสามารถนำขึ้นมาได้ ที่บ้านชมภู ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก โดยช้างอายุประมาณ 10-12 ปี  เจ้าหน้าที่ใช้เชือกผูกลำตัวเข้ากับรถแบคโฮไว้ สภาพช้างเริ่มมีแรงมากขึ้น กินอาหารได้ ส่งเสียงร้องดัง แต่ได้รับบาดเจ็บที่ขาหลังทั้งสองข้าง โดยเฉพาะขาหลังขวาค่อนข้างบวม อาจจะมาจากแรงกระแทกของน้ำป่า ช้างไม่สามารถลุกด้วยตัวเองได้ ใช้หัวพยุงกับต้นยางไว้ ในช่วงเช้าวันนี้มีชาวบ้านนำอ้อยนำกล้วยมาให้ช้างได้กินอีกด้วย

ด้าน ดร.กาญจนา นิตยะ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานสัตว์ป่าฯ ได้มาดูอาการช้าง พร้อมกับสอบถามอาการกับ นายสัตวแพทย์ทวีโชค อังควานิช จากสถาบันคชบาลฯ เผยว่า ช้างบาดเจ็บขาหลัง ยังไม่สามารถลุกเองได้ ต้องดำเนินการรักษาแบบช้างบ้านโดยขนไปที่ลำปาง เนื่องจากอุปกรณ์การรักษาอยู่ที่นั่นเป็นหลัก หากปล่อยไว้ตามธรรมชาติ ช้างป่าเชือกนี้คงไม่รอด

ส่วนการขนย้ายนั้นกำลังหาวิธีการ เพราะทางที่เข้าไปรับช้างค่อนข้างสัญจรลำบากเป็นดินโคลน โดยเบื้องต้นประสานหาแผ่นเหล็กมาเพื่อให้รถบรรทุกวิ่งเข้าไปรับช้างออกมาได้ หรือ ใช้รถแบ็กโฮรดึงรถบรรทุกออกมา แต่ยังต้องประเมินวิธีการขนย้ายต่อเนื่อง ช้างป่าตัวดังกล่าวค่อนข้างดุ เกรงว่าถ้านำใส่รถบรรทุกไปจะตื่นสะบัดตัวทำให้เกิดอุบัติเหตุกับรถที่ขนไปได้ จึงต้องประเมินสถานการณ์ให้ดีก่อนเคลื่อนย้าย