ฮือฮา! ขุดเจาะพระพุทธรูปโบราณ 2 องค์ที่ได้รับพระราชทานจากร.5 อัญเชิญประดิษฐานในเจดีย์องค์ใหม่ จ.มหาสารคาม

วันที่ 3 พ.ย.60  นายเสน่ห์ นนทะโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในพิธีอัญเชิญพระพุทธรูปโบราณ ที่มีการเล่าสืบต่อกันมาว่า ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ออกจากเจดีย์องค์เดิมที่ชำรุด เพื่อนำไปประดิษฐานในเจดีย์องค์ใหม่ที่สร้างอยู่ใกล้กัน ภายในวัดสวนตาลวราราม บ้านแก่นท้าว ต.เม็กดำ อ.พยัคฆภูมิพิสัย

โดยคณะกรรมการวัดและชาวชุมชน ได้เริ่มดำเนินการเปิดช่องในเจดีย์องค์เก่าตั้งแต่ช่วงเช้า แต่การเปิดช่องในเจดีย์ชั้นที่สามซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปทั้งสององค์เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากถูกก่อสร้างด้วยคอนกรีตและมีแผ่นเหล็กกั้นไว้ถึงสองชั้น ช่างต้องใช้เครื่องมือขุดเจาะคอนกรีตและตัดแผ่นเหล็กด้วยแก๊ส รวมเวลาประมาณ 7 ชั่วโมง จึงสามารถเปิดช่องพร้อมนำพระพุทธรูปทั้งสององค์ออกมาได้สำเร็จ โดยองค์แรกที่นำออกมาเป็นพระพุทธรูป ขนาดหน้าตักประมาณ 3 นิ้ว  องค์ที่สอง ขนาดหน้าตักประมาณ 5 นิ้ว  ทั้งสององค์เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ท่ามกลางชาวบ้านจำนวนมากที่มาร่วมรอชมตั้งแต่เริ่มดำเนินการ เพราะไม่เคยเห็นพระพุทธรูปทั้งสองมาก่อน แม้จะอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ภายในเจดีย์นี้เมื่อประมาณ พ.ศ. 2537 แต่ในอดีตมีคนจำนวนน้อยมากที่ได้รับรู้เรื่องราวการเก็บรักษาพระพุทธรูปทั้งสอง

พระอธิการไสว สิริจันโท เจ้าอาวาสวัดสวนตาลวราราม เปิดเผยว่า มีคนจำนวนไม่มากที่ได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องพระพุทธรูปทั้งสององค์ ซึ่งเล่าต่อกันมาว่าได้รับพระราชทานมาจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ทราบว่าหลังจากพระครูสีหราช หรือหลวงปู่จู เจ้าอาวาสวัดองค์แรกและผู้ก่อตั้งวัด ได้มรณภาพ เมื่อ พ.ศ.2481สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทั้งสองก็ไม่ปรากฏชัดเจน หมุนเวียนอยู่ในครอบครองของอุบาสก อุบาสิกาหลายคน จนเมื่อ พ.ศ.2515ทราบว่าเจ้าอาวาสวัดในสมัยนั้น ได้นำกลับมาประดิษฐานไว้บริเวณเพดานพระอุโบสถหลังเก่า แต่คณะกรรมการวัดไม่ทราบมาก่อน จึงเริ่มสืบ และค้นหาจนพบแล้วอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ในเจดีย์ที่สร้างขึ้นใกล้กันเมื่อ พ.ศ.2537 ซึ่งสมัยนั้นยังเป็นฆราวาสก็ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นอย่างใกล้ชิดด้วย

กระทั่งปัจจุบัน พ.ศ.2560 มีโครงการสร้างเจดีย์องค์ใหม่เพื่ออัญเชิญพระพุทธรูปโบราณทั้งสองขึ้นประดิษฐานบนส่วนยอดเจดีย์ ซึ่งเจดีย์มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ให้พุทธศาสนิกชนสะดวกในการเข้าสักการบูชา จึงให้ทุกฝ่ายมาร่วมดำเนินการกันในวันนี้ สำหรับพระพุทธรูปโบราณทั้งสององค์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตรวจพิสูจน์ รวมทั้งค้นหาข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปะ พร้อมทั้งเก็บรวมรวมข้อมูลให้ปรากฏชัดเจน ก่อนจะอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนยอดเจดีย์องค์ใหม่ที่มีชื่อว่า เจดีย์ปิยะมงคลศรีแก่นท้าว เพื่อให้ประชาชนได้สักการะต่อไป