ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
[caption id="attachment_134368" align="alignnone" width="677"] นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์[/caption]
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากในขณะนี้ว่า เมื่อมีรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่จะต้องหาบุคคลที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งแทนรัฐมนตรีที่ลาออก ทำให้การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงยาก ถึงแม้ผู้นำรัฐบาลจะไม่อยากปรับคณะรัฐมนตรีก็ตาม เพราะการเอารัฐมนตรีที่เคยทำงานกันมาออกไปย่อมก่อให้เกิดความไม่สบายใจ ทั้งคนปรับและคนถูกปรับ และก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมไม่มากก็น้อย
[caption id="attachment_134369" align="alignnone" width="716"] พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี[/caption]
อย่างไรก็ดี เมื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องปรับ ครม. ทั้งที ขอฝากท่านนายกฯ ว่า เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ต่อประเทศชาติและประชาชน นายกฯ ไม่ควรปรับ ครม. เพียงแต่ปรับเปลี่ยนบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเท่านั้น แต่ควรใช้โอกาสนี้ปรับปรุงการทำงานให้เกิดผลลัพธ์ออกมาเป็นที่พึงพอใจของประชาชนมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ และปัญหาเศรษฐกิจรากหญ้าที่อยู่ในภาวะฝืดเคือง ไม่มีสภาพคล่อง ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำทั่วไป จะบ่นว่าเศรษฐกิจแย่ค้าขายไม่ดีกันทบทุกหย่อมหญ้า
เพื่อให้การปรับ ครม.เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเกิดประสิทธิผลต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ควรดำเนินการบนพื้นฐาน 3 ประการดังนี้
1. คัดสรรบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และมีความเหมาะสมกับงานในกระทรวงที่รับผิดชอบอย่างแท้จริง
2. คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว หรือประโยชน์ของเพื่อนพ้องน้องพี่แต่เพียงอย่างเดียว
3. ปรับทุกกระบวนการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ มีการติดตามประเมินผลแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที เน้นเรื่องความโปร่งใสตรวจสอบได้
นายองอาจ กล่าวต่อไปว่าถ้าท่านนายกฯ ปรับ ครม. ไปพร้อมๆ กับการปรับปรุงกระบวนการทำงาน เชื่อว่าจะทำให้การทำงานของรัฐบาลเกิดประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างแน่นอน