svasdssvasds

โตมาแบบไหน บุกยำคู่อริถึงรพ. ปลัดสธ.เล็งสแกนนิ้วก่อนเข้าห้องฉุกเฉิน ย้ำเขตสถานพยาบาลปลอดรุนแรง แม้ยามสงครามเขายังไม่ทำกัน

โตมาแบบไหน บุกยำคู่อริถึงรพ. ปลัดสธ.เล็งสแกนนิ้วก่อนเข้าห้องฉุกเฉิน ย้ำเขตสถานพยาบาลปลอดรุนแรง แม้ยามสงครามเขายังไม่ทำกัน

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีมีเหตุทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นในโรงพยาบาลช่วงเทศกาลลอยกระทง ว่า เหตุทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นใน รพ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และ รพ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ เป็นเหตุที่อุกอาจมาก โดยเฉพาะที่ รพ.กระทุ่มแบนมีเสียงปืนดังขึ้น ทำให้ประชาชนตื่นตกใจ จึงอยากวอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกับกลุ่มคนดังกล่าวอย่างเฉียบขาด ไม่ให้เกิดขึ้นอีก หลังจากมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ตนได้มีการย้ำเตือนกับทุกโรงพยาบาลถึงเรื่องความปลอดภัย ในช่วงเทศกาลให้มีการเพิ่มเวรยาม 24 ชั่วโมง มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้พร้อมใช้งาน และให้ผู้อำนวยการทุกโรงพยาบาลประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารขอกำลังดูแลรักษาความปลอดภัย

โตมาแบบไหน บุกยำคู่อริถึงรพ. ปลัดสธ.เล็งสแกนนิ้วก่อนเข้าห้องฉุกเฉิน ย้ำเขตสถานพยาบาลปลอดรุนแรง แม้ยามสงครามเขายังไม่ทำกัน

“ในปีนี้ สธ.ได้สั่งการไปยังกรมการแพทย์ในการพัฒนาห้องฉุกเฉิน ซึ่งอันที่จริงนั้นเรามีมาตราการต่างๆ ดีอยู่แล้ว แต่จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น โรงพยาบาลบางแห่งได้ดำเนินการแล้ว โดยให้เพิ่มการสแกนนิ้ว หรือใช้คีย์การ์ดในการเปิดเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อให้ปลอดภัยยิ่งขี้นคนนอกไม่สามารถเข้าไปได้” 

โตมาแบบไหน บุกยำคู่อริถึงรพ. ปลัดสธ.เล็งสแกนนิ้วก่อนเข้าห้องฉุกเฉิน ย้ำเขตสถานพยาบาลปลอดรุนแรง แม้ยามสงครามเขายังไม่ทำกัน

นพ.เจษฎา กล่าวว่า สถานพยาบาลเป็นที่รู้กันอยู่แล้วตามหลักสากลว่า เป็นที่ปลอดความรุนแรง แม้ในช่วงศึกสงครามก็ยังละเว้นที่สถานพยาบาลไว้เพราะเป็นที่รักษาคนเจ็บป่วย จึงอยากวอนขอว่าให้ละเว้นความรุนแรงในสถานพยาบาลด้วย ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลทั้งสองแห่งนั้นมีฝ่ายของคู่กรณีที่ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยขนาดนี้กลับบ้านได้แล้ว เจ้าหน้าที่และผู้ป่วยคนอื่นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ มีแต่ตื่นตกใจเพราะมีเสียงดังเท่านั้น

ขณะที่ ชุดสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้แล้ว 7 ราย หนึ่งในนั้นเป็นคนใช้ไม้เบสบอลกระหน่ำตีคู่อริได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมตั้งข้อหาร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ หรือร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ในเวลากลางคืน, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมของกลางอาวุธปืน CZ รุ่น 75d แบบออโตเมติก ขนาด 9 มม. ไม้เบสบอล และรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นบริโอ้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ญฮ 2585 กรุงเทพมหานคร ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางชาวบ้านจำนวนมากต่างเฝ้าดูการทำแผนด้วยความไม่พอใจ โดยมี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงมาดูแลคดีนี้ด้วยตัวเอง

โตมาแบบไหน บุกยำคู่อริถึงรพ. ปลัดสธ.เล็งสแกนนิ้วก่อนเข้าห้องฉุกเฉิน ย้ำเขตสถานพยาบาลปลอดรุนแรง แม้ยามสงครามเขายังไม่ทำกัน

สำหรับผู้ต้องหาที่จับกุมได้ ประกอบด้วย 1. นายชาคริต หรือเฟิร์ส นกขำดี อายุ 18 ปี เคยถูกจับกุมคดีลักรถจักรยานยนต์ 2.นายกรญวัฒฐ์ หรือเด่น บุญชู อายุ 36 ปี เคยถูกจับคดีร่วมกันปล้นทรัพย์ 2 ครั้ง 3.นายณัฐพร หรือลิฟท์ รัตนบุรี อายุ 30 ปี 4.นายวาทิต หรือมิก ประวิรัตน์ อายุ 27 ปี เคยถูกจับคดีลักทรัพย์ 5.นายแดง แท่งทอง อายุ 28 ปี เคยถูกจับคดีข่มขืนกระทำชำเรา และลักรถจักรยานยนต์ 6.นายอนุรักษ์ หรืออาร์ม พุฒศิริ อายุ 31 ปี เคยถูกจับคดีวิ่งราวทรัพย์ ร่วมชิงทรัพย์จนถึงแก่ความตาย และร่วมปล้นทรัพย์ เป็นคนใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า 4 นัด ก่อนส่งต่อให้นายฐิติพงษ์ และ 7.นายฐิติพงษ์ สุขสวัสดิ์ อายุ 40 ปี เคยถูกจับคดียาเสพติด เป็นคนรับปืนต่อจากนายอนุรักษ์ ยิงขึ้นฟ้าอีก 11 นัด โดยแนวทางการสืบสวนพบว่า นายชาคริต หรือเฟิร์ส สักที่ใบหน้าจนแตกต่างจากคนอื่น ซึ่งเป็นรอยสักที่ไม่เหมือนคนอื่น ทำให้สืบสวนจับกุมได้ง่ายกว่ารายอื่น จากนั้นก็ขยายผลไปตามจับผู้ต้องหาคนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับอีก 5 คน พร้อมตรวจสอบต่อไปว่าเชื่อมโยงกับกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่หรือไม่

 

related