สอบปากคำแม่และน้องชายโมนา รู้เห็นฆ่าฝังศพสาวใช้ หรือไม่ ขณะที่ลูกสาวขอเป็นพยาน ไม่กล้ากลับบ้านที่เมืองเพชร

น.ส.ธีรตีย์ หรือ เฟียทองมี ลูกสาวของ น.ส.โมนา หรือ น.ส.กฤษณา สุวรรณพิทักษ์ อายุ 45 ปี ชาว จ.เพชรบุรี ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น.ส.จริยา หรือน้องน้ำ ศรีศักดิ์ อายุ 16 ปี สาวใช้ในบ้านจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อกลางเดือนเมษายน ปี 2555 ได้เข้าพบ พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. เพื่อขอให้จัดกำลังตำรวจกองปราบปรามเข้าคุ้มครองดูแล โดยบอกว่าจะไม่ขอกลับไปพักที่บ้านที่ จ.เพชรบุรี กับแม่และยายอีกแล้ว เพราะห่วงว่าจะไม่ปลอดภัยในชีวิต เนื่องจากตัวเองมาเป็นพยานให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองปราบปราม และตัวเองก็เคยถูกแม่ทำร้ายร่างกาย หลายครั้งเช่นกัน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมไปสอบปากคำเพื่อนบ้านของ น.ส.กฤษณา ที่หมู่บ้านกลางเมือง ย่านประชาชื่น กทม.ว่า เคยเห็นน้องน้ำอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว หรือเคยเห็นน้องน้ำ ถูก น.ส.กฤษณา ทำร้ายร่างหรือไม่

พ.ต.อ.ไมตรี  เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีว่า พนักงานสอบสวนได้นำสำนวนมาให้ตรวจสอบแล้ว คดีมีความคืบหน้าไปมากและมั่นใจในพยานหลักฐานที่มี สามารถเอาผิดผู้ก่อเหตุได้แน่นอน ทั้งนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปสอบปากคำ นางโดโร ทิมพิทักษ์ แม่ของน.ส.โมนา และ นายปราโมทย์ หรือ บอย สุวรรณพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน น้องชายของ น.ส.โมนา ในประเด็นรู้เห็นการตายและการนำศพไปฝังหรือไม่ เนื่องจากบ้านที่นำศพไปฝังเป็นบ้านของนางโดโร และนายปราโมทย์

ส่วน นายดำ ที่ถูกซัดทอดว่า ได้รับการว่าจ้าง จากนายปราโมทย์ ให้ขุดหลุมฝังน้องน้ำ โดยได้ค่าจ้าง 200-300 บาท นั้น พบว่า นายดำได้เสียชีวิตไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์กับโครงกระดูกที่ขุดพบว่าเป็นศพน้องน้ำหรือไม่นั้น ซึ่งขณะนี้ ผลยังไม่ออกมา แต่ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมสำนวนมาให้ตรวจสอบแล้ว มีความคืบหน้าไปมากและมั่นใจในพยานหลักฐานที่มี ว่าสามารถเอาผิดผู้ก่อเหตุได้อย่างแน่นอน