ผอ.รพ. ปัด! เหตุบริการจัดการศพ ย้ำ! ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ "เด็กเมืองชล คนแปดริ้ว" โพสต์ระบายด้วยความสงสัยถึงบิลค่าจัดการศพของโรงพยาบาลรัฐชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่อ่าวอุดม แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงมาก โดยเฉพาะค่าจิตอาสาที่มีราคาสูงถึง 500 บาท อีกทั้งยังมีรายจ่ายตามบิลที่บางรายการมีราคาสูงจนน่าแปลกใจ ประกอบไปด้วย ค่าฉีดยาศพ 2,000 บาท ค่าแต่งศพ-อาบน้ำทำความสะอาด 350 บาท ค่าพลาสติก 300 บาท ค่าผ้าขาวรองห่อศพ 200 บาท ค่าหมอนและผ้าแพร 700 บาท ค่าชุดเชิญ กระดาษโปรย กระดาษเงิน-ทอง 700 บาท และค่าถุงซิบใส่ศพ 1,000 บาท เมื่อรวมกับค่าจิตอาสาข้างต้น เป็นเงินทั้งสิ้น 5,750 บาท ซึ่งเมื่อมีการโพสต์ออกไปก็ทำให้เกิดการแสดงความคิดเห็นในโลกโซเชียลอย่างกว้างขวาง

ล่าสุดวันนี้( 17 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. นายราเมศร์ อำไพพิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้ตั้งโต๊ะพูดคุย ในกรณีมีป้ายสีแดง ที่ระบุว่า อัตราค่าบริการจัดการศพ (จิตอาสา) ว่า สำหรับระบบการให้บริการเก็บศพ ของโรงพยาบาลก็เป็นไปตามขั้นตอนปกติ ญาติสามารถเข้ามารับศพไปบำเพ็ญตามศาสนาได้ทุกเวลาที่ ตามที่ญาติผู้เสียชีวิตสะดวก และสำหรับค่าใช้จ่าย ที่ทางโรงพยาบาลนำศพมาเก็บไว้ในห้องเย็น ทางโรงพยาบาลไม่ได้มีการเก็บค่าบริการแต่อย่างใด ในขณะที่ค่าใช้จ่ายที่ปรากฏในบิลเงินสด บนโลกโซเชียลนั้น จุดนี้ ไม่ใช่บิล ของทางโรงพยาบาล

ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามถึงคำว่า ไม่ใช้บิลของโรงพยาบาลก็แสดงว่าทางโรงพยาบาล เปิดให้บริษัทเอกชนเข้ามาสัมปทานการดูแลศพที่โรงพยาบาล ใช่หรือไม่

นายราเมศร์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากศพ ไม่ใช่ทรัพย์สินหรือสิ่งของ ทางเราจึงไม่สามารถเปิดให้สัมปทานได้ ในขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ถึงประเด็น เจ้าหน้าที่ ที่อยู่บริเวณห้องเก็บศพ ว่าใช้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลหรือไม่ โดยได้คำตอบว่า ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลแน่นอน น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่แต่งหน้าศพ ที่มาคอยรอให้บริการเท่านั้น

นอกจากนี้ นายราเมศร์ พยายามบ่ายเบี่ยงคำถามของผู้สื่อข่าว หลังจากนั้น กลุ่มสื่อมวลชน ได้ชักชวนนายราเมศร์ ไปดูจุดห้องเก็บศพ พบว่าจุดที่ติดป้าย อัตราค่าบริการจัดการศพ (จิตอาสา) หายไป นายราเมศร์ กล่าวว่า สำหรับในส่วนของการบริการตรงจุดนี้ เป็นกลุ่มจิตอาสา ที่เข้ามาขออนุญาตทางโรงพยาบาล ขอให้บริการด้านแต่งหน้าศพหรืออุปกรณ์ต่างๆ ตรงจุดนี้อยู่ที่การสมัครใจของญาติผู้เสียชีวิต ทางโรงพยาบาล ไม่ได้บังคับแต่อย่างใด เพราะทางโรงพยาบาลไม่มีอำนาจสั่งการ

ขอบคุณข้อมูลจาก : เด็กเมืองชล คนแปดริ้ว