svasdssvasds

โพลเผยปชช.เคยซื้อสลากเกินราคาพบส่วนใหญ่ปล่อยผ่าน

โพลเผยปชช.เคยซื้อสลากเกินราคาพบส่วนใหญ่ปล่อยผ่าน

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง“สลากกินแบ่งรัฐบาล (ลอตเตอรี่) เกินราคา" จากการสำรวจเมื่อถามถึงการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลของประชาชน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 45.20 ระบุว่า ซื้อเป็นบางครั้งรองลงมา ร้อยละ 28.40 ระบุว่า ไม่เคยซื้อเลย และร้อยละ 26.40 ซื้อเป็นประจำ ด้านการเคยพบเห็นการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เกินราคา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 69.52 ระบุว่า เคยพบเห็น และร้อยละ 30.48 ระบุว่า ไม่เคยพบเห็น

เมื่อถามผู้ที่ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลถึงการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เกินราคา พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 64.25 ระบุว่า เคยซื้อ เพราะ เป็นเลขที่ชอบ เลขยอดนิยม ชอบเลขชุด อยากรวย บางส่วนระบุว่า เห็นใจคนขาย รับมาแพง ไม่ทราบราคาที่แน่นอน ส่วนใหญ่ขายเกินราคาอยู่แล้ว และร้อยละ 35.75 ระบุว่า ไม่เคยซื้อ เพราะ ราคาแพงเกินกว่าที่รัฐกำหนด ไม่อยากสนับสนุนให้ขายเกินราคาและไม่เคยพบเห็นการขายเกินราคา

สำหรับสิ่งที่อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 24.90 ระบุว่า เพิ่มบทลงโทษผู้ที่ขายสลากเกินราคาและลงโทษอย่างจริงจัง รองลงมา ร้อยละ 21.79 ระบุว่า ยกเลิกระบบคนกลาง ร้อยละ 12.62 ระบุว่า ให้มีตู้อัตโนมัติจำหน่ายสลาก ร้อยละ 12.01 ระบุว่า รณรงค์ไม่อุดหนุนผู้ที่ขายสลากเกินราคา ร้อยละ 8.23 ระบุว่า ระบบหวยออนไลน์ ร้อยละ 2.09 ระบุว่า น่าจะแก้ไขปัญหาไม่ได้ ร้อยละ 5.74 อื่น ๆ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ควรลงพื้นที่ตรวจตราอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมราคาให้มีมาตรฐานเพิ่มจำนวนสลากให้มากขึ้น กำหนดโควตาการซื้อสลากของพ่อค้าคนกลาง ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา และร้อยละ 12.62 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงสิ่งที่จะทำหากพบเห็นการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 40.19 ระบุว่า ไม่ทำอะไรเลย รองลงมา ร้อยละ 36.14 ระบุว่า ไม่ซื้อสลาก ร้อยละ 15.46 ระบุว่า บอกคนขายสลากว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ร้อยละ 4.37 ระบุว่า แจ้งตำรวจ และร้อยละ 3.84 ระบุว่า แจ้งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

“นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง“สลากกินแบ่งรัฐบาล (ลอตเตอรี่) เกินราคา" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15 – 16 พฤศจิกายน 2560 โดยสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างด้วยความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล" ด้วยวิธีแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) โดยแบ่งชั้นภูมิตามภูมิภาค จากนั้นในแต่ละภูมิภาคสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ ร้อยละ 95.0 และมีค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (Standard Error: S.E.) ไม่เกิน 1.4

related