2 พยานครูจอมทรัพย์ ยันพูดตามจริง ไม่มีความจำเป็นต้องรับจ้างสร้างแพะ

วันที่ 20 พ.ย.60 ความคืบหน้า เกี่ยวกับคดีครูจอมทรัพย์ หรือ นางจอมทรัพย์   แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี อดีตข้าราชการครู ที่ออกมาเรียกร้องให้รื้อฟื้นคดีหลังถูกตัดสินจำคุก กรณีขับรถชนคนตาย เมื่อปี 2548 ที่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม  และ ต่อสู้มาถึง 3 ศาล  ถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือน จนกระทั่งพ้นโทษได้ร้องทุกข์ กระทรวงยุติธรรมให้การช่วยเหลือ รื้อฟื้นคดี  อ้างว่าเป็นแพะ และสุดท้ายเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนครพนมได้พิพากษายกคำร้องในการรื้อคดี โดยให้ยืนคำตัดสินตามศาลชั้นต้นและศาลฎีกาเดิม

ล่าสุดทาง พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้สั่งการให้คณะทำงาน แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดต่อกลุ่มพยานของครูจอมทรัพย์ที่เคยไปเบิกความต่อศาลในการไต่สวนพิจารณารื้อคดี เนื่องจากเข้าข่ายความผิดแจ้งความเท็จ เบื้องต้นได้แจ้งความไปแล้ว 2 ราย คือ นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง เพื่อนสนิทครูจอมทรัพย์ ซึ่งเป็นคนสำคัญที่มีหลักฐานเชื่อมโยงว่า เป็นคนจัดตั้งขบวนการรับจ้างรับผิดแทน  รวมถึง นายสับ วาปี ที่เคยออกมายืนยัน ว่าเป็นคนขับรถตัวจริง เพื่อเรียกตัวมาสอบสวนขยายผล ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะเดียวกันได้มีพยาน 2 ปาก สำคัญ คือ นางทัศนีย์  หาญพยัคฆ์ อายุ 61  ปี และ นางทองเรศ  วงศ์ศรีชา  อายุ 52  ปี ที่เคยเป็นพยานยืนยันว่า อยู่ในเหตุการณ์ และ พบเห็นว่ามีชายคนขับรถเดินลงมาดูผู้เสียชีวิต ก่อนขับรถหนีไป  และได้มาเป็นพยานฝ่ายผู้ร้อง คือ ครูจอมทรัพย์ ในวันพิจารณาไต่สวนรื้อคดีด้วย  และยังเป็นพยานที่เคยให้การกับตำรวจตั้งแต่การเริ่มดำเนินคดี ว่าเห็น เลขทะเบียนรถที่ชนคือ  56 แต่ไม่สามารถจำหมวดอักษร สีรถ ยี่ห้อรถได้ แต่ไม่ได้ให้การตำรวจมาก่อนว่าเป็นชาย  โดยทั้งสองได้ออกมายืนยัน ว่า เป็นพยานด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้รับการว่าจ้าง ที่มาช่วยเหลือเพราะสงสาร และเห็นคนขับเป็นชาย  พร้อมยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับครูจอมทรัพย์มาก่อน  และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมารับจ้างหรือหาประโยชน์ ส่วนจะมีขบวนการรับจ้างหรือ การรับผิดแทน ทั้ง 2 คน ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น