นักวิ่งว่าอย่างไร? กับการกำหนดโซนนิ่ง ห้ามวิ่งมาราธอนในเขตเมือง

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ดูแลงานจราจรกล่าวว่า จากปัญหาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทางทีมจัดงานวิ่งมาราธอน "กรุงเทพมาราธอน" ได้สร้างปัญหาโดยทิ้งขยะเกลื่อนเต็มผิวจราจรจนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดถนนได้นั้นทาง บช.น. ในฐานะที่เป็นผู้อนุญาตให้ใช้เส้นทางจะเรียกผู้จัดการเข้ามาชี้แจงพร้อมทั้งตักเตือน  ซึ่งที่ผ่านมาในระหว่างการประชุมกับผู้จัดงานในลักษณะดังกล่าวทุกครั้ง บช.น. จะชี้แจงทุกครั้งว่าทางผู้จัดงานจะต้องเตรียมความพร้อมเรื่องดูแลความสะอาดในเส้นทางที่จัดงานเสมอ เพื่อลดผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนรวมทั้งชี้แจงว่าหากปล่อยให้มีขยะบนผิวการจราจรจะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 128 และ 129 ปรับสูงสุด 1,000 บาท โดยต่อไปนี้หากมีการจัดการวิ่งมาราธอน บช.น. จะเรียกผู้จัดงานเข้ามาดำเนินการตามกฎหมายทันที

ทั้งนี้ บช.น. ยังได้ขอความร่วมมือจากผู้จัดการวิ่งมาราธอน ทุกรายการ ให้เลี่ยงการใช้เส้นทางสะพานพระราม 8 ต่อเนื่องคู่ขนานบรมราชชนนี เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ประชาชนใช้สัญจรเป็นจำนวนมาก แต่หากเลี่ยงไม่ได้ก็จะอนุญาตให้วิ่งเฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น และจะให้ปิดการจราจรเพียงฝั่งเดียว

ในอนาคต บช.น. อาจจะจัดโซนพื้นที่สำหรับการวิ่งมาราธอนในกรุงเทพมหานคร เพื่อลดผลกระทบต่อการจราจรในเส้นทางหลักโดยแบ่งโซนตามพื้นที่ทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศใต้ ซึ่งจะต้องไม่เข้ามาจัดงานบนถนนสายหลักหรือในบริเวณกรุงเทพฯชั้นใน และจะต้องเสนอแผนการใช้เส้นทางก่อน 2 เดือน เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณาความเหมาะสมของเส้นทางก่อนไปกำหนดเส้นทางและขายบัตร พร้อมทั้งอยากเชิญ ผู้จัดงานวิ่งมาราธอน มาประชุมเพื่อหารือปัญหาทั้งหมด

ด้านนายไพรัชฏ์ ไตรเวทย์  วิศวกรและนักวิ่งมาราธอน ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับแนวคิดนี้ว่า ส่วนตัว เห็นด้วยถ้าจะไม่ให้จัดวิ่งมาราธอนในเมือง หากส่งผลกระทบไปสร้างปัญหาการจราจร เชื่อว่า นักวิ่งสามารถเลือกงานไปวิ่งชานเมือง หรือในพื้นที่อื่นที่เหมาะสมได้ นอกจากนั้น ยังเห็นว่า การจัดโซนนิ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องทำอย่างเป็นรูปธรรม ทางออกที่ดี คือในระยะยาว บังคับให้ผู้จัดกีฬา ต้องมีใบอนุญาติ เพื่อควบคุมมาตรฐานให้ถูกต้อง ถ้าทำผิด ก็ยึดใบอนุญาติ หรือเสียค่าปรับ ทั้งนี้ ตนเห็นว่า ในช่วงนี้มีคนหันมาสนใจกีฬากันมากขนาดนี้ เหมาะอย่างยิ่งที่จะเริ่มต้นจัดระเบียบ อย่างที่ผ่านมา มีปัญหาที่ผู้จัดวิ่งบางรายการหลอกขายบัตร ไม่ดูแลสวัสดิภาพความปลอดภัยของผู้ลงวิ่ง หลังเกิดเหตุ หาตัวเจ้าของงานหรือผู้จัดวิ่งไม่เจอก็มี  ส่วนเรื่องการใช้พื้นที่ถนน เชื่อว่า มีกฏหมายบังคับอยู่บ้างแล้ว และทุกครั้งก็ต้องขออนุญาติเจ้าของพื้นที่ ดังนั้น อาจเป็นหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กองบังคับการตำรวจทางหลวง หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ พิจารณาร่วมกันเพื่อความเหมาะสมได้

ขณะที่ นายปลาย นักวิ่งรายการ Ironman สมาชิกกลุ่ม walrus เห็นว่า ถ้าเป็นรายการวิ่งรายการใหญ่ๆ ถือเป็นการช่วยโปรโมทเมืองและส่งเสริมการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เพราะปัจจุบันมีชาวต่างชาติ นิยมมาลงวิ่งในประเทศไทย และเมืองอื่นๆทั่วโลก  ในกรณีที่จัดวิ่งชานเมือง อยากให้มีการกำหนดเส้นทางให้ชัดเจน ประกาศให้ทราบเส้นทางปิดและเส้นทางทดแทนล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องปิดถนนวิ่งกลางเมือง แล้วทำชาวบ้านเดือดร้อน ตนเห็นว่า นักวิ่งไม่จำเป็นต้องวิ่งผ่านสถานที่สำคัญก็ได้ เพราะผ่านเห็นเพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้นเอง