"ผู้กองเอฟ"เสียใจเหตุน้องเมยเสียชีวิต เผย ประสบการณ์เรียนนายร้อยมีแค่ "ซ่อม" ไม่มีซ้อม

วันที่ 23 พ.ย.60 ร.อ.อภิสุนันท์ คำแฮ นายทหารฝ่ายยุทธการและการฝึก สังกัดกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 7 หรือ ผู้กองเอฟ เน็ตไอดอล ที่มีชื่อเสียงในโลกโซเชี่ยลที่มีผู้ติดตามเฟซบุ๊กกว่า 5หมื่นราย และเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 45 เปิดเผยกับ สปริง นิวส์ ออนไลน์ ถึงประสบการณ์สมัยที่ตนเองเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร เกี่ยวกับระบบการปรับปรุงวินัย หรือ ซ่อม โดยยอมรับว่ามีเรื่องของการปรับปรุงวินัยจริง แต่เป็นไปตามระบบที่ชัดเจน ไม่มีการถึงเนื้อถึงตัวกันแต่อย่างใด และมีข้อห้ามข้อปฏิบัติที่ชัดเจน

ซึ่งสมัยที่ตนเองเรียนนั้นก็เคยโดน ที่หนักๆจะเป็นช่วง 5 เดือนแรกของการเข้าเรียน ซึ่งจะเหมือนเป็นประเพณีที่ต้องแสดงออกถึงการยอมรับของรุ่นพี่ทั้ง 4 ชั้นปี ว่ารุ่นน้องเหล่านี้ได้ผ่านการทดสอบและมีความเหมาะสมที่จะเข้ามารับการฝึกเป็นรุ่นถัดไป สมัยที่ตนเองเรียนก็ถูกรุ่นพี่ รุ่น 41 ปรับปรุงวินัยหนัก และ คิดว่าหนักกว่านักเรียนนายร้อยกลุ่มอื่น เนื่องจากตนเองเข้าเป็นนักกีฬาทีมรักบี้ของโรงเรียนนายร้อยด้วย มีทั้งการซ้อมกีฬา และการปรับปรุงวินัยซึ่งยอมรับว่าหนัก แต่ก็ผ่านพ้นไปได้ และ เคยเกือบที่จะเป็นลมครั้งหนึ่งเท่าที่จำได้ โดยครั้งนั้นเป็นการเตรียมร่างกายไม่ดีเองเลยเกิดความอ่อนเพลีย

ส่วนการลงโทษหรือปรับปรุงวินัยของรุ่นพี่นั้น ผู้กองเอฟ เล่าว่า  สมัยที่เรียนและโดนปรับปรุงวินัยนั้น ไม่เคยสงสัยหรือถามหาเหตุผลจากรุ่นพี่ แต่ก็ปฏิบัติไปตามที่ถูกสั่งการ จนจบมาแล้วคิดย้อนกลับไปบางครั้งก็เห็นเหตุผลว่าที่รุ่นพี่สั่งเราแบบนั้นแบบนี้ เพราะต้องการให้เราฝึกฝนวินัยและความอดทน ซึ่งในสายงานทหาร หรือในสนามรบ หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง นั่นอาจหมายถึงชีวิตตนเองและทีมก็เป็นได้ การฝึกเรื่องวินัยจึงเป็นเรื่องสำคัญในสายการบังคับบัญชา เพียงแต่ตอนที่เรียนไม่มีใครมาอธิบายความจำเป็นหรือเหตุผล บางอย่างก็ต้องเรียนรู้เอง ข้อมูลที่เล่ามาก็เป็นสิ่งที่ตนเองประสบมา และยืนยันได้ว่า การปรับปรุง การบ่มเพาะสร้างของ นนร.เป็นเรื่องมหัศจรรย์ คำสอนบางอย่าง ตนเองก็เอามาใช้ในการ ดูแลลูกน้อง ใช้กับเพื่อนร่วมงาน ใช้กับการเป็นผู้ใต้บังคับบัญชามาตลอด

ส่วนประเด็นเรื่องการเสียชีวิตของ นักเรียนนายร้อยที่เป็นข่าวนั้น ขอแสดงความเสียใจด้วยจริงๆ แต่คงไม่ขอแสดงความเห็นเรื่องของสาเหตุการเสียชีวิต เพราะเป็นการสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นและเรื่องอยู่ระหว่างการตรวจสอบดำเนินการ ที่บอกได้คงเป็นประสบการณ์ของตนเองสมัยที่เรียนอยู่เท่านั้น

นอกจากนี้ เรื่องของโรคประจำตัวนั้น มีเป็นข้อบังคับชัดเจนอยู่แล้วว่ามีโรคใดบ้างที่ห้ามเข้ารับราชการทหาร ซึ่งโรคหัวใจก็เป็นหนึ่งในโรคที่เป็นเงื่อนไขการเข้าเรียน แต่กรณีนี้ตนเองไม่ทราบว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่แพทย์ต้องให้ความชัดเจน และเป็นเรื่องในกระบวนการตรวจสอบ คงไม่ขอเข้าไปก้าวก่าย แต่ก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลของสปริง นิวส์ออนไลน์พบว่า การปรับปรุงวินัย มีท่าพื้นฐานให้ทำได้เพียง 3 ท่าเท่านั้น คือ ยึดพื้น สก็อตจัมพ์ และวิ่ง ขณะที่กฎหมายยังได้นิยามความหมายของทัณฑ์แต่ละประเภทเอาไว้อย่างชัดเจน ได้แก่ ภาคทัณฑ์ คือ ผู้กระทำผิดมีความผิดอันควรต้องรับทัณฑ์สถานใดใน 5 สถาน แต่มีอันควรปราณี จึงเป็นแสดงความผิดของผู้นั้นให้ปรากฏ หรือ ให้ทำทัณฑ์บนไว้

ทัณฑกรรม คือ ให้กระทำการสุขา การโยธา ฯลฯ เพิ่มจากหน้าที่ปะจำซึ่งตนจะต้องปฏิบัติอยู่แล้ว หรือ ปรับให้อยู่เวรยามนอกจากหน้าที่ประจำ

กัก คือ กักตัวไว้ในบริเวณใดบริเวณหนึ่งตามแต่จะกำหนดให้

ขัง คือ ขังในที่ควบคุมแต่เฉพาะคนเดียวหรือรวมกันหลายคนแล้วแต่คำสั่ง

จำขัง คือ ขังโดยไปส่งฝากให้อยู่ความควบคุมของเรือนจำทหาร

ซึ่งกฎหมายได้บัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า นอกจากทัณฑ์ 5 สถานนี้แล้ว ห้ามมิให้คิดขึ้นใหม่ หรือ ใช้วิธีลงทัณฑ์อย่างอื่นเป็นอันขาด

ทั้งนี้ การลงทัณฑ์ทหารที่กระทำผิดวินัย ถูกควบคุมโดยพระรชบัญญัติวินัยทหาร พ.ศ.2476 ซึ่งยังบังคับใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน เนื้อหาในกฎหมายกำหนดตัวอย่างการกระทำผิดวินัยทหารเอาไว้ 9 ประการ ได้แก่

1.ดื้อ ขัดขืน หลีกเลี่ยง หรือ ละเลย ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเหนือตน

2.ไม่รักษาระเบียบการเคารพระหว่าผู้ใหญ่ผู้น้อย

3.ไม่รักษามรรยาทให้ถูกต้องตามธรรมเนียมของทหาร

4.ก่อให้แตกความสามัคคีในคณะทหาร

5.เกียจคร้าน ละทิ้ง หรือ เลินเล่อต่อหน้าที่ราชการ

6.กล่าวคำเท็จ

7.ใช้กิริยาวาจาไม่สมควร หรือ ประพฤติไม่สมควร

8.ไม่ตักเตือน สั่งสอน หรือ ลงทัณฑ์ผู้ใต้บังคับบัญชาที่กระทำผิดตามโทษานุโทษ

9.เสพเครื่องดองของเมาจนถึงเสียกิริยา