เมื่อการออกกำลังกายกลายเป็นความสุขในชีวิตประจำวันที่ขาดไม่ได้ เหมือนการแต่งหน้า ทำผม ที่ต้องทำทุกวัน ผลลัพธ์จึงเป็นเช่นนี้

"แค่เดินข้ามสะพานลอยยังเหนื่อย จะให้มาวิ่ง trail เนี้ยะนะ จะบ้าเหรอ ? " 

ไม่บ้าค่ะ อ่านก่อน คุณอริสรา ธนูแผลง หรือ คุณจีแจ๊ป อายุเฉียดหลักสี่ 39 ปีแล้วค่ะ เธอเป็นผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และที่เผ็ชชชชชมาก กำลังจะเป็นเจ้าสาวแสนสวย ในปีหน้า(2561) อิจหนักมากค่ะ

คุณแจ๊ป เล่าว่า เพิ่งหันมาสนใจในการดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง เมื่อ 3 - 4 ปีที่ผ่านมานี่เอง เริ่มจากการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ไปกับการทำงานหนัก เดินทางไปทำงานทั้งต่างประเทศและต่างจังหวัดบ่อย ละเลยการใส่ใจสุขภาพ จนมาวันหนึ่ง คุณแจ๊ปเริ่มรู้สึกเหนื่อยหอบขณะเดินขึ้นสะพานลอย จึงเริ่มหันกลับมาทบทวนวิถีชีวิต สาวทำงานตัวติดโต๊ะ และทานของโปรดในยามเดินทางไปต่างประเทศ ไม่สนใจการควบคุมน้ำหนัก ผลลัพธ์ จากเอวคอด น้ำหนักทะลุไป 60 กิโล (ความสูง 163 ซม.) สังเกตตัวเองว่า เดินช้าลง ความคล่องแคล่วหายไปหมด จนเธอลุกขึ้นบอกกับตัวเองว่า “ไม่ได้แล้ว ฉันต้องผอมและแข็งแรงให้ได้ เหลือบมองนิตยสารต่างประเทศ เห็นหุ่นของเหล่าดารา Hollywood …นี่แหละ my idol"

เริ่มค่ะ!! จากการวิ่งลู่ในฟิตเนส คุณแจ๊ปบอกว่า แรกๆลมจับนะคะ วิ่งไปได้แค่ 30 นาที ทรมานมาก หันไปมองคนรอบข้าง ทุกคนฟิตมาก ทำเอาจิตตกกันเลยทีเดียว คุณแจ๊ปกลั้นใจฮึดอีกรอบ ว่าจะต้องวิ่งให้ได้ จะเร็ว จะช้า แค่ไหนไม่รู้ แต่วันนึงต้องให้ได้ 1 ชั่วโมง

จากนั้น 2 เดือน ผลของการออกกำลังหนักแบบ addict ทุกวัน บวกการควบคุมอาหารแบบจริงจัง ลดทาน แป้ง ของทอด ของมัน ของหวาน  จากคนที่เลิฟ หมูทอด เป็นชีวิตจิตใจ เปลี่ยนเมนูใหม่หมด เดินหน้าสายผัก อาหารโปรตีนดีๆ มื้อเย็น เป็นสลัด เกาเหลา หรือผลไม้  ว๊าววววววว ผลลัพธ์ คือ สวยปัง น้ำหนักหายวับไป 13 กิโลกรัม ภายใน 2 เดือน ทุกครั้งที่เห็นตัวเองในกระจก “โอ้ ตอนนี้ฉันสวยเหมือนดารา Hollywood แล้ว”

เราสังเกตเห็นว่า เธอเป็นหญิงมุ่งมั่นค่ะ เมื่อจริงจังกับงานแล้ว ยามออกออกกำลังกายก็เช่นกัน คุณแจ๊ปเริ่มวิ่งหนักขึ้น หนักขึ้น ลู่บนฟิตเนส แลดูจะเบาเกินไป สำหรับคนสวยสาย strong แถมคุณแฟนเป็นสายบ้าออกกำลังเหมือนกัน งานนี้เลยจูงกันวิ่ง outdoor เริ่มจากสวนแถวบ้าน สวนลุม สวนเบญจกิติ สารพัดสวน ทุกวัน อย่างต่ำสัปดาห์ละ 5 วัน ครั้งละ 5 กิโลเมตร จนวันหนึ่ง คุณแจ๊ป รู้สึกได้ว่า “วิ่ง” ไม่ใช่แค่กีฬา กลายเป็นงานอดิเรก คลายเครียดจาก วิ่งไปวิ่งมา จาก 5 เป็น 10 กิโลเมตร จนที่สุดเธอค้นพบว่า "การวิ่ง คือความสนุกสนาน ที่ไม่ต่างไปจากการแต่งหน้า ทำผม กลายเป็นความสุขเรียบง่าย ที่สร้างได้จากสองขาของตัวเอง รู้สึกราวกับพบเพื่อนแท้ ที่ซุกซ่อนอยู่ในจิตวิญญาณมานาน ทุกครั้งที่วิ่ง คือ ความสงบและมีสติ ยามเมื่อขาทั้งสองพาร่างกายเคลื่อนไปข้างหน้า"

จากผู้หญิงที่ท้อแท้กับสะพานลอย กลายเป็นนักวิ่ง Half marathon แล้วเข้าสู่ Full marathon ผ่านรายการวิ่งมากมายกว่า 30 รายการ ตอนนี้ กลายเป็นสวยโหด คลั่งไคล้การวิ่งขึ้นเขา แบบ trail running ไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้ ทุกรายการวิ่งในประเทศไทย ถ้าจัดสรรเวลาได้ลงตัว รับรองเจอคุณแจ๊ปแน่นอนค่ะ คุณแจ๊ปบอกว่า ไม่เชื่อตัวเองเหมือนกันว่าจะมาจนถึงจุดนี้ได้ภายในเวลาเพียงแค่ 3 ปี เปลี่ยนมุมคิด เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนร่าง….ตารางออกกำลัง ยังสามารถนำไปประยุกต์กับวิธีของแต่ละคน ตามความถนัดและความเหมาะสมของร่างกาย คุณแจ๊ปเลือกวิ่งทุกวัน เช้าหรือเย็น วันละ 1 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 10 กิโล #ทำตาหวานๆดุใส่ ห้ามขี้เกียจนะคะ

1. ขยัน อย่างเพิ่งเลิกล้มความตั้งใจ วันนี้เหนื่อย พรุ่งนี้ก็วิ่งใหม่ ร่างกายจะค่อยๆปรับตัว และทำให้เราวิ่งได้นานขึ้น แต่เหนื่อยน้อยลง ขยันหน่อย อย่างน้อยวิ่งให้ได้วันละ 5-10 นาที ต่อเนื่องกัน 5 วันต่อสัปดาห์
2. การวอร์มอัพก่อนวิ่ง สำหรับนักวิ่งมือใหม่ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ก่อนจะออกสตาร์ทก็ควรวอร์มอัพกันก่อน อาจจะเดินเร็วสัก 5-10 นาที
3. ลองวิ่งให้เร็วขึ้น วิ่งด้วยความเร็วปกติประมาณ 2-3 นาที สลับกับวิ่งแบบสปรินต์ (Sprint) ประมาณ 10 วินาที วนไปอย่างนี้เรื่อย ๆ หรือหากจะประลองฝีเท้าวิ่งของตัวเองอาจเพิ่มรอบสปรินต์เป็น 30 วินาทีก็ได้ วิ่งแบบนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และความสามารถของปอด ช่วยให้วิ่งได้นานขึ้น อึดมากขึ้น
4. วิ่งสลับเดินเร็ว หากวิ่งเต็มฝีเท้าไปได้สักพักแล้วรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน ลองลดความเร็วแล้วเดินเร็วดูบ้างก็ได้ โดยก้าวเดินยาวๆ แบบเร่งสปีดให้เร็วกว่าเดินปกติ วิธีนี้ช่วยป้องกันร่างกายไม่ให้เกิดความตึงเครียดมากเกินไป
5. ฟังเพลงเบาๆ คลอไปด้วย จังหวะสบายหู หรือป๊อปช้าๆ ช่วยให้วิ่งได้นานขึ้น
6. หาชุดกีฬาสวยๆ เก๋ๆใส่ ยิ่งเสริมกำลังใจในการวิ่งหรือออกกำลัง #ทำลู่วิ่ง ให้เป็นรันเวย์
7. ใส่นาฬิกาจับแคลอรี่ ก้าวเดิน ก้าววิ่ง เก็บสถิติของตัวเองไว้เปรียบเทียบ จะได้เห็นพัฒนาการ

ส่วนข้อนี้ แซ่บมาก ถามเผื่อสาวๆ เอวเล็ก เอวเอส เคล็ดลับ คือ งดแป้งค่ะ อาจทานได้บ้าง แต่ทานมื้อนี้แล้ว มื้อหน้าต้องไม่ทาน balance อาหารการกินในแต่ละวันให้ดี หรือถ้ามื้อไหนทานขนมหวาน เค้ก ไอศกรีม มื้อถัดไป คำนวณแคลอรี่ ให้สมดุล และที่สำคัญต้องดื่มน้ำผลไม้ทุกเช้า กลางวัน ส้มตำ สลัดผัก หรือมันเทศ ข้าวโพดต้ม ส่วนเย็นผลไม้แบบสตรอว์เบอร์รี สัปปะรด ชื่นใจค่ะ ส่วนเอวเล็กๆ นี้ คุณแจ๊ปมีต้นทุนที่ดีค่ะ เอวเล็กคอดโดยรูปร่าง แต่ห้ามประมาท ถีบกรรเชียง (Rowing Machine) ช่วยลดเอว ช่วยให้เอวกระชับ ไม่ย้วย จะได้คงเอวเอสไว้กับเราได้นานๆ

เจ้าสาวใกล้วัย 40 ปี คนนี้ กำลังเตรียมตัวสำหรับวันระฆัง แง่ง หง่าง อย่างไร คนสวยหัวเราะเบาๆ เปิดใจว่า ด้วยความที่อายุไม่น้อยแล้ว ไม่นั่งฝันถึงเจ้าชายสวมรองเท้าแก้วให้เจ้าหญิงแล้วค่ะ แต่การแต่งงานในวัยนี้ ว่าด้วยวุฒิภาวะ ความพร้อมทั้ง อารมณ์ ความคิด จิตใจ ปัจจัยแห่งรัก“ลงตัว” งานแต่งที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงเน้นเรียบง่าย อบอุ่น สนุกสนาน ส่วนเรื่องชุดแต่งงาน เรียบโก้ ดูได้นาน แก่เฒ่าแล้วอยากให้ลูกหลานร้อง Wow ! ส่วนการดูแลรักษารูปร่าง อย่างที่บอก เธอเน้น “ความสมดุล” จะได้ใส่ชุดสวยๆ ไม่ต้องแก้กันหลายรอบ เน้นเอาใจใส่ ความเปล่งปลั่งสะอาดสะอ้าน อบไอน้ำผม ดูแลผิว นอนอิ่มไม่มีรอยคล้ำใต้ตา ดูแลเล็บมือเล็บเท้า เข้าสปาทำ medicure pedicure และเพิ่มสารบำรุงรอบนิ้วมือ อีกส่วนคือ เตรียมไปฟอกฟันให้ขาวใส ห้ามเครียด เด็ดขาด ถ้าเป็น bridzilla จะยิ่งหน้าเหี่ยว ไม่สดใส

ฝากถึงคนอ่าน คอลัมน์ young ทัน  “ตอนนี้นับเป็นยุครุ่งเรืองของคนรักสุขภาพ ทุกคนตระหนักแล้วลุกขึ้นมาออกกำลังกายในแบบที่ตัวเองชอบ แต่ความอ่อนเยาว์ ต้องเกิดจากข้างใน ห้ามมองข้าม “จิตใจ” เพราะเธอเชื่อเรื่อง“ยุติธรรมกับชีวิตตัวเอง” คือ อย่าใช้ร่างกายและจิตใจไปกับสิ่งต่างๆ รอบตัวที่ไม่ดีมากเกินไปค่ะ บางครั้งซึบซับเรื่องบางเรื่องมาแบบไม่รู้ตัว ต้องพยายามตื่นเช้ามาหาความยุติธรรมให้ชีวิต เริ่มจากตื่นนอนมองกระจก สร้างความสดชื่น สดใสให้ตัวเอง เป็นสิ่งแรกของวัน อย่าใช้เวลาคิดเรื่องของคนอื่นมาก จิตใจสุข อยู่กับชีวิตปัจจุบัน เป็นการสร้างความยุติธรรมให้สมดุลของชีวิต ถ้าทำได้ รับรองว่า ชีวิตดีค่ะ ” … อ่านจบแล้ว รักเธอจัง

คอลัมน์ Young ทัน by อรรธจิตฐา วิทยาภรณ์