svasdssvasds

สาวแฉ! ภัยสังคม... ตร.เก๊ยัดยาพี่ชาย เรียกค่าไถ่จากแม่เป็นเซ็กส์

สาวแฉ! ภัยสังคม... ตร.เก๊ยัดยาพี่ชาย เรียกค่าไถ่จากแม่เป็นเซ็กส์

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

 

สาวอุบลฯ วัย 16 ปี ทุกข์ใจพี่ชายถูกคนในเครื่องแบบยัดยาบ้าแถมเรียกค่าไถ่ขอมีเซ็กส์กับแม่ ขู่หากแจ้งตำรวจจะกลับมาทำร้าย ด้านผู้เป็นแม่เผยชายในเครื่องแบบยอมปล่อยตัวลูกชายโดยไม่มีอะไรเสียหาย ที่ยอมเล่าเหตุการณ์เพื่อต้องการให้สังคมรับรู้และระวังตัว ส่วนตัวไม่คิดเอาเรื่องแต่ยังหวาดกลัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก "มีด่านบอกด้วยอุบลราชธานี" ได้ประสานขอให้สื่อมวลชนช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงและนำเสนอข่าวเตือนภัยสังคม กรณีมีหญิงสาววัย 16 ปี ส่งข้อมูลเตือนภัยภัยจากการถูกชายแต่งกายคล้ายตำรวจทหาร ในพื้นที่ชายแดนตั้งด่านและยัดยาบ้าให้พี่ชาย ก่อนจะขอมีเพศสัมพันธ์กับคุณแม่เพื่อเป็นการปล่อยตัวไม่ดำเนินคดี ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อนางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี (น้องสาว) ผู้เสียหาย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงของเรื่องราวที่แจ้งไปยังเพจมีด่านบอกด้วยอุบลราชธานี

นางสาวเอ (น้องสาว) อายุ 16 ปี  เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 07.35 น. วันที่ 25 พ.ย.60 นางบี (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี (มารดา) แจ้งว่ามีผู้ชายใช้โทรศัพท์ของ นายซี (นามสมมุติ) อายุ25 ปี (ลูกชาย) เข้ามาแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายซี (ลูกชาย) เนื่องจากมีปัสสาวะเป็นสีม่วงและพบยาเสพติดจำนวน 10 เม็ด ขอให้มารดากดรับเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก ซึ่งจะมีข้อเสนอเพื่อไม่ให้พี่ชายถูกจับกุมดำเนินคดี หลังจากมารดารับเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก ชายคนดังกล่าวได้ส่งข้อความแจ้งว่านายซี (ลูกชาย) โดนจับเนื่องจากมีปัสสาวะเป็นสีม่วง และถูกลูกน้องยัดยาบ้าให้จำนวน 10 เม็ด เหตุเกิดในอำเภอหนึ่งของ จ.มุกดาหาร หากดำเนินคดีก็จะต้องติดคุก 5-6 ปี เสียเงินอีก 300,00 บาท แต่มีข้อเสนอว่าจะยอมปล่อยตัวพี่ชายหากแม่ยอมไปมีเพศสัมพันธ์ด้วย ทำให้มารดารู้สึกตกใจกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น

เบื้องต้นครอบครัวได้โทรเช็กไปยังสถานีตำรวจที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้จับกุมว่าได้มีการตั้งด่านและจับกุมนายซี (ลูกชาย) จริงหรือไม่ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็แจ้งว่ายังไม่ได้มีการตั้งด่านหรือจับกุมนายซี (ลูกชาย) แต่อย่างใด หลังจากที่โทรสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วครอบครัวยังไม่มั่นใจจึงได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจที่ถูกกล่าวอ้าง เพื่อตรวจสอบการจับกุมอีกครั้ง ขณะที่กำลังให้การกับเจ้าหน้าที่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นชายคนที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ส่งข้อความมาสอบถามว่าจะยอมรับข้อเสนอหรือไม่ หากไม่รับก็เตรียมหาศพพี่ชาย หรือจะรับข้อเสนอใหม่ โดยให้มารดาของตนถ่ายรูปอวัยวะเพศส่งไปให้ดูทางเฟซบุ๊ก แล้วจะยอมปล่อยพี่ชาย

ด้านพนักงานสอบสวนเจ้าของท้องที่ถูกกล่าวอ้างใน จ.มุกดาหาร เห็นข้อความการสนทนาทั้งหมดจนมีการวางแผนให้มารดายอมรับข้อเสนอให้ไปเจอกันที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง เพื่อให้ชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจออกมาหาแต่คาดว่าชายคนดังกล่าวไหวตัวทัน จึงส่งข้อความมาบอกว่ามีตำรวจเพียบเลยนะ จากนั้นก็ขาดการติดต่อไป

ด้านนางบี (มารดา) ได้เปิดเผยอีกว่าในช่วงเย็นวันเดียวกัน (25 พ.ย.) ตนเองก็ได้รับการติดต่อทางเฟซบุ๊กอีกครั้ง โดยครั้งนี้ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจได้แจ้งว่าจะปล่อยตัวนายซี (ลูกชาย) โดยมีข้อตกลงว่าห้ามนำเรื่องนี้เข้าให้การกับตำรวจเด็ดขาด ไม่งั้นรายต่อไปจะเป็น "ตัวเล็ก" ซึ่งหมายถึงลูกสาว พร้อมทั้งคนในครอบครัว ตอนนี้นายซี (ลูกชาย) ยังไม่ฟื้นหากได้สติเมื่อไหร่ลูกชายจะกลับบ้านเอง รุ่งขึ้น (26 พ.ย.) ประมาณ 11.00 น. นายซี (ลูกชาย) ได้กลับถึงบ้านโดยมีอาการปวดหัวหน้าซีดมึนงง จำเหตุการณ์ไม่ได้ ทรัพย์สินทั้งหมดหายไปเพียงเงิน 500 บาท อย่างอื่นยังอยู่ครบ

นายซี (ลูกชาย) ผู้เสียหายเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนวันเกิดเหตุตนเองได้ทะเลาะกับแฟนจนดึกเช้าวันรุ่งขึ้น คือวันเกิดเหตุตนได้ขับรถจักรยานยนต์ ไปตามถนนสายยุทธ์ศาสตร์ ขาออกมุ่งหน้าสามแยกถ้ำเสือระหว่างทางตนพบชาย 3 คน แต่งกายคล้ายตำรวจ 1 นาย และคล้ายทหารอีก 2 ราย มีกรวยตั้งอยู่กลางถนนและมีรถกระบะโตโยต้าสีดำจอดอยู่ข้างทาง เมื่อถึงจุดตรวจชายคนที่แต่งกายคล้ายตำรวจได้เข้ามาบิดกุญแจรถก่อนถามตนว่าได้จอดที่ไหนหรือไม่ ขอค้นกระเป๋าหน่อยด้วยความบริสุทธิ์ใจตนก็ยอมให้ค้นโดยไม่ได้มองการตรวจค้น จนชายที่แต่งกายคล้ายตำรวจบอกว่ามียาบ้า 10 เม็ด ตนก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่ของตน หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวได้ยึดกุญแจรถ โทรศัพท์มือถือ ก่อนจะให้ตนเองกดเบอร์โทรศัพท์ของแม่และใส่กุญแจมือปิดตาไปที่ใดไม่ทราบซึ่งเป็นห้องมืด ตนโดนบังคับให้ดื่มน้ำที่มีรสชาติขมไม่นานก็รู้สึกมึน งง ปวดหัวจำไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผ่านไป 1 วัน ตนตั้งสติได้จึงได้ติดต่อบอกมารดาว่าปลอดภัยดี กำลังจะกลับบ้าน

นางบี (มารดา) กล่าวทิ้งท้ายว่า ตอนนี้คนในบ้านยังคงรู้สึกหวาดกลัวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ระแวงคนแปลกหน้าที่เข้ามาพูดคุยด้วย ด้านคดีตนเองไม่ได้คิดจะเอาเรื่องเอาความอะไรเพราะตนเองก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากลูกชายก็ปลอดภัย แต่ยังสงสัยว่า บุคคลทั้ง 3 เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร จริงหรือไม่ หรือเป็นมิจฉาชีพที่ออกมาก่อเหตุและเหตุใดต้องเอาเรื่องการมีเพศสัมพันธ์มาเป็นเงื่อนไขในการต่อรองปล่อยตัวลูกชาย ส่วนที่ลูกสาวออกมาพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะอยากจะให้สังคมได้รับรู้ว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ ครอบครัวของตนอาจจะไม่ใช่รายแรกที่ถูกกระทำเช่นนี้ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้เห็นความรักของแม่ที่มีต่อลูกชายแม้จะต้องเอาตัวเองเข้าเสี่ยงเพื่อแลกกับความปลอดภัยของลูกชายแม่ก็สามารถยอมได้ โดยไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเอง

สาวแฉ! ภัยสังคม... ตร.เก๊ยัดยาพี่ชาย เรียกค่าไถ่จากแม่เป็นเซ็กส์ สาวแฉ! ภัยสังคม... ตร.เก๊ยัดยาพี่ชาย เรียกค่าไถ่จากแม่เป็นเซ็กส์ สาวแฉ! ภัยสังคม... ตร.เก๊ยัดยาพี่ชาย เรียกค่าไถ่จากแม่เป็นเซ็กส์

 

สาวแฉ! ภัยสังคม... ตร.เก๊ยัดยาพี่ชาย เรียกค่าไถ่จากแม่เป็นเซ็กส์ สาวแฉ! ภัยสังคม... ตร.เก๊ยัดยาพี่ชาย เรียกค่าไถ่จากแม่เป็นเซ็กส์ สาวแฉ! ภัยสังคม... ตร.เก๊ยัดยาพี่ชาย เรียกค่าไถ่จากแม่เป็นเซ็กส์ สาวแฉ! ภัยสังคม... ตร.เก๊ยัดยาพี่ชาย เรียกค่าไถ่จากแม่เป็นเซ็กส์

 

สาวแฉ! ภัยสังคม... ตร.เก๊ยัดยาพี่ชาย เรียกค่าไถ่จากแม่เป็นเซ็กส์ สาวแฉ! ภัยสังคม... ตร.เก๊ยัดยาพี่ชาย เรียกค่าไถ่จากแม่เป็นเซ็กส์ สาวแฉ! ภัยสังคม... ตร.เก๊ยัดยาพี่ชาย เรียกค่าไถ่จากแม่เป็นเซ็กส์

 

related