โดนท้ายเกม!!! ช้างศึกยู 23 พ่าย เกาหลีเหนือ 0-1 ชวดเข้าชิง ศึกM-150 คัพ

ฟุตบอล M-150 cup 2017 ที่สนามไอโมบาย สเตเดียม เป็นการแข่งขันนัดที่ 2 ระหว่างทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี พบกับทีมชาติเกาหลีเหนือ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี โดยเกมแรก ทีมชาติไทย ระเบิดฟอร์ม เฉือนเอาชนะ ญี่ปุ่น มา 2-1 ส่วน เกาหลีเหนือ เกมแรกพวกเขาโดน ญี่ปุ่น ไล่ถลุงไป 4-0 เกมนี้ จู ซอง อิล เฮดโค้ชโสมแดง วาง จอง คุม ซอง และ รี ฮุน เป็นตัวความหวังในเกมรุก หากเกมนี้ "ช้างศึกU23" เก็บได้แค่ 1 คะแนน ก็จะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทันที

เริ่มเกมครึ่งแรกได้ 7 นาที ไทย ได้โอกาสทักทายก่อน จากการยิงไกลของ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา แต่บอลเบาไปเข้ามือ ผู้รักษาประตู เกาหลีเหนือ รับไว้ได้จากนั้นทั้ง 2 ทีมสู้กันในแดนกลางเป็นหลัก ทำให้โอกาสทำประตูมีน้อย นาทีที่ 28 ชัยวัฒน์ บุราญ ได้โอกาสสับไกยิงด้วยซ้าย แต่บอลเหินข้ามคานไป นาทีที่ 30 สหรัฐ ปองสุวรรณ ผ่านบอลให้ ชัยวัฒน์ บุราญ ได้ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่บอลไปตรงตัว กวาง จู ฮยอก ผู้รักษาประตูเกาหลีเหนือ ทำให้ ไทย U23 ได้ประตูนำอย่างน่าเสียดาย จากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูได้ หมดครึ่งแรก ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เสมอกับทีมชาติเกาหลีเหนือ รุ่น อายุไม่เกิน 23 ปี แบบไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งหลังเกมยังสูสี นาทีที่ 58 ไทย ได้โอกาสโต้กลับเร็ว อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ วางบอลยาวให้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ แต่งบอลเข้าซ้าย และยิงถากเสาไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 62 อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ตักบอลจากสุดเส้นหลังไปหน้าประตูให้ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา กระโดดยิงโดนไม่ดี ทำให้บอลหลุดกรอบออกไป ท้ายเกมนาทีที่ 80 เกาหลีเหนือ ได้ประตูนำ เมื่อ รี ฮุน ได้เก็บตกบอลจังหวะสอง ก่อนแต่งบอลเข้าซ้าย แล้วสับไกส่งบอลเข้าประตูไปให้ทีมโสมแดง ออกนำ ไทย ก่อน 1-0

หลังจากเสียประตู ไทย พยายามโหมบุก เพื่อหวังตีเสมอ นาทีที่ 89 จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ เปิดบอลจากกราบขวาไปหน้าประตูให้ ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา โขกเน้นๆ แต่บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี พ่าย ทีมชาติเกาหลีเหนือ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ไป 0-1 ทำให้ทัพ "ช้างศึกU23" ผ่านเข้ารอบเป็นอันดับสองของกลุ่มเอ ส่วนแชมป์กลุ่มตกเป็นของทีมชาติญี่ปุ่น U23

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปในวันที่ 15 ธันวาคม 2560 คู่ชิงอันดับ 3 จะเป็นการพบกันระหว่างทีมชาติไทย U23 พบทีมชาติเวียดนามU23 พบ แข่งขันเวลา 16.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง True4U ส่วนรอบชิงชนะเลิศทีมชาติญี่ปุ่นU23 พบกับทีมชาติอุซเบกิสถาน U23 แข่งขันเวลา 20.00 น. ซึ่งทั้ง 2 คู่จะแข่งขันที่สนามบุรีรัมย์ สเตเดียม