ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
วันที่ 15 ธ.ค.60 ชาวบ้านบ้านบึงหล่ม ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม หันมาทำอาชีพเกษตรพอเพียงปลูกผักขายตามริมแม่น้ำโขง สร้างรายได้ กลายเป็นพื้นที่อันซีน เนื่องจาก เป็นพื้นที่ทำการเกษตรเชิงอนุรักษ์ ที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ สามารถมองเห็นแปลงผักสวนครัวท่ามกลางธรรมชาติสองฝั่งโขง เหมาะแก่การท่องเที่ยวพักผ่อน ศึกษาอาชีพเกษตรพอเพียงอีกด้วย โดยในปีนี้เหล่าเกษตรกรเลือกปลูกกะหล่ำปลีมากขึ้น เพราะมีราคาสูง บวกกับช่วงนี้สภาพอากาศหนาวทำให้ต้นกะหล่ำปลีโตเร็ว ใช้ระยะเวลาปลูกประมาณ 60 -70 วัน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้
ด้าน นายวีระ ชัยสอน อายุ 53 ปี หนึ่งในเกษตรกร เปิดเผยว่า ในปีนี้เกษตรกรริมแม่น้ำโขงที่ยึดอาชีพเกษตรพอเพียงปลูกผักขายมีรายได้มากขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศหนาวต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อพืชผักโตเร็ว โดยเฉพาะกะหล่ำปลี ที่ใช้เวลาแค่ประมาณ 2 เดือน ก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้แล้ว
ยิ่งปีนี้พื้นที่อื่นปลูกยากทำให้ราคาแพง ตกกิโลกรัมละประมาณ 15 บาท พื้นที่ 1 ไร่จะเก็บผลผลิตได้ไม่ต่ำกว่า 1 ตัน ขายได้ประมาณไร่ละ 1 แสนบาท ถือเป็นโอกาสดีของเกษตรกรทำสวนกะหล่ำ ซึ่งข้อดีของพื้นที่ริมโขงมีดินตะกอนน้ำโขง ทำให้พืชผักโตเร็ว ไม่ต้องใช้สารเคมี ปลอดสารพิษ ยิ่งช่วงนี้มีออเดอร์สั่งซื้อไม่อั้น ยาวไปถึงช่วงตรุษจีน ถือเป็นอาชีพเกษตรพอเพียงที่สร้างรายได้เป็นอย่างดี