ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา เกิดคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญขึ้นหลายคดี แต่คดีที่เป็นที่จดจำของคนทั่วไป คงหนีไม่พ้น 3 คดีนี้ ที่ล้วนแต่เกิดขึ้นจากฝีมือคนใกล้ตัว ทางทีมข่าวจึงได้รวบรวมมาให้คุณผู้ชมได้ติดตามจากรายงานชิ้นนี้
วันที่ 25 พฤษภาคม 2560 พบศพหญิงสาวถูกฆาตกรรมปริศนา ภายในพื้นที่บ้านโนนสง่า ตำบลคำม่วง อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น สภาพศพถูกหั่นออกเป็น 2 ท่อน และฝังดินเพื่ออำพรางคดี ทราบชื่อผู้ตายคือ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม ต่อมาตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบผู้ตายกดเงินออกจากบัญชี โดยมีน้ำฝน สาวทอมคนรักของน้องแอ๋ม เป็นคนไปส่งหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในช่วงเช้ามืด ของวันที่ 23 พฤษภาคม และเมื่อกลับถึงห้องได้ขาดการติดต่อไป จนพบว่าน้องแอ๋มขึ้นรถซีอาร์วีคันหนึ่ง ก่อนหายตัวไป ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ ตำรวจจึงสืบสวนสอบสวนจนทราบว่ารถคันดังกล่าวมีนายวศิน นามพรหม เป็นคนขับ พร้อมมีนางสาวปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ นั่งมาในรถด้วย โดยทั้ง 4 คนได้พยายามหลบหนีก่อนที่ตำรวจจะเรียกตัวมาสอบสวน จากนั้นวันที่ 29 พฤษภาคม 2560 ศาลจังหวัดขอนแก่น จึงได้อนุมัติออกหมายจับทั้งหมด
ซึ่งนายวศิน ถูกจับกุมเป็นคนแรก หลังหลบหนีข้ามไปยังประเทศลาว และให้การซักทอดไปยังเปรี้ยว ว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าน้องแอ๋ม ส่วนเปรี้ยว เอิร์น และแจ้ หลบหนีไปประเทศเมียนมา ต่อมากล้องวรจรปิดบริเวณด่านแม่สาย จังหวัดเชียงราย สามารถจับภาพรถต้องสงสัย ซึ่งเป็นรถที่พาผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ข้ามไปยังเมียนมา ขณะเดียวกันตำรวจได้จับกุมนางสาวจิดารัตน์ หรือเบนซ์ หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับ และให้การว่าไม่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว เพราะในวันเกิดเหตุอาศัยอยู่กรุงเทพฯ จนได้รับการปล่อยตัว กระทั่งคืนวันที่ 3 มิถุนายน เปรี้ยว เอิรน์ และแจ้ ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับตำรวจท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแม่สาย จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งต่อมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยตั้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลอบฝัง ซ่อนเร้น อำพรางศพ เพื่อปิดบังการเสียชีวิตหรือสาเหตุการเสียชีวิต รวมทั้งปล้นทรัพย์และรับของโจร ส่วนส่าเหตุของการฆ่านั้น เกิดจากเปรี้ยวมีความแค้นส่วนตัวกับน้องแอ๋ม ซึ่งเป็นสายชี้เป้าให้กับตำรวจในคดียาเสพติด .. ปัจจุบันผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ถุกคุมขังในเรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่น
เย็นวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 กลุ่มคนร้าย 6-7 คน พร้อมอาวุธครบมือ แต่งชุดลายพรางบุกเข้าบ้าน นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านเขางาม หมู่ 1 ตำบลบ้านกลาง อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ โดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ทำทีขอตรวจค้นบ้าน ก่อนใช้ปืนลูกโม่จุด38 สังหารทุกคนในบ้าน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน และรอดมาได้ 4 คน ซึ่งจากการสอบปากคำผู้รอดชีวิต ยืนยันว่าจดจำใบหน้าคนร้ายได้ 4 คน ได้ยินคนร้ายพูดกับผู้ใหญ่บ้าน ระบุถึงเรื่องเงิน และเรื่องความขัดแย้งที่ดิน เหตุการณ์ผ่านไปเกือบ 1 สัปดาห์ ตำรวจให้น้ำหนักปมความขัดแย้งสัปทานโรงโม่หิน ที่นายวรยุทธ รับเงินมาจากนายทุนกว่า 10 ล้านบาท เพื่อไกล่เกลี่ยชาวบ้านที่คัดค้าน และผลักดันให้ประกอบกิจการได้ แต่นายวรยุทธไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จ ซึ่งปมขัดแย้งนี้ทำให้ตำรวจเรียกสอบปากคำนายเชษฐ์ดนัย ถิ่นพังงา เพื่อนสนิทนายวรยุทธ โดยนายเชษฐ์ดนัยยืนยัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
19 กรกฎาคม 2560 ศาลจังหวัดกระบี่ อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 8 ราย โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า นายซูริก์ฟัด บ้านนบวงศกุล หรือ บังฟัด รับสารภาพตั้งแต่วันแรกที่ถูกจับ ว่าเป็นคนลงมือจริง มูลเหตุมาจากการขายฝากที่ดิน ซึ่งนายวรยุทธเอาไปจำนองกับ บังฟัด แต่บังฟัดนำโฉนดไปจำนองธนาคาร ทำให้ไม่สามารถนำโฉนดมาคืนได้ จึงเกิดการขู่ฆ่ากันไปมา จนบังฟัดต้องย้ายไปอยู่นอกพื้นที่ ทำให้สถานะการเงินมีปัญหา จึงได้วางแผนก่อเหตุดังกล่าว ทางตำรวจได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้งหมด รวม 6 ข้อหาด้วยกัน ก่อนนำผู้ต้องหาทั้งหมดไปขออนุมัติฝากขังเรือนจำจังหวัดกระบี่
คดีการหายตัวไปของนางสาวพลอยนรินทร์ ผลิผล หรือ น้องพลอย นานกว่า 3 ปี เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 เมื่อมารดาของน้องพลอย ส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ว่าบุตรสาวถูกนายพลกฤต วิเศษ อดีตทหาร ลักพาตัวไปในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 โดยก่อนหน้านี้บุตรสาวได้คบหาอยู่กับนายพลกฤต แต่มาทราบภายหลังว่าฝ่ายชายมีครอบครัวแล้ว จึงขอเลิกคบหา แต่จากนั้นครอบครัวถูกข่มขู่เรื่อยมา ก่อนที่น้องพลอยจะหายตัวไป และหลังเข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรท่าเรือ ซึ่งมีพยานหลักฐาน ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ ซึ่งเห็นนายพลกฤต ขับรถมาดักหน้าที่ทำงานของน้องพลอย และพบเส้นผมน้องพลอยในรถที่ใช้ก่อเหตุ ศาลทหารจึงออกหมายจับนายพลกฤต ในข้อหา “หลอกลวงผู้อื่นเพื่อกระทำอนาจาร” แต่ไม่สามารถจับกุมได้
ต่อมาวันที่ 13 สิงหาคม 2560 ตำรวจ และทหาร สนธิกำลังไล่ล่านายพลกฤต ที่หนีไปกบดานอยู่กับแฟนสาวคนปัจจุบัน ที่จังหวัดนครราชสีมา ก่อนที่จะได้รับการประสานจากญาติ ขอเข้ามอบตัว และยอมรับสารภาพว่าอุ้มฆ่าน้องพลอย ก่อนทิ้งศพไว้ในเขตอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี และนำศพไปเผานั่งยางเมื่อ 3 ปีที่แล้ว สาเหตุเพราะความหึงหวงที่น้องพลอยพยายามตีตัวออกห่าง หลังทราบว่าตนเองมีครอบครัวแล้ว
ทีมข่าวท้องถิ่น ข่าวจริงสปริงนิวส์ รายงาน