ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดยู 23 จำเป็นต้องล้มญี่ปุ่นให้ได้เพื่อลุ้นเข้ารอบต่อไป แต่จะทำได้หรือไม่ ก่อนอื่นเช็คความพร้อมก่อนและสถิติการพบกันที่นี่ โดยเกมคู่นี้จะแข่งขันวันที่ 13 มกราคม 2018 เวลา 18.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ที่สนามเจียงหยิน สปอร์ตส์ เซ็นเตอร์ ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 และ Bugaboo
สภาพความพร้อม
ไทย (U23) : โซรัน ยานโควิช ล่าสุดพาทีมประเดิมสนามได้ไม่สวยนักเมื่อเสียท่า เกาหลีเหนือ 0-1 แต่เกมนี้มีข่าวดีเมื่อจะได้ทั้ง นพพล พลคำ กองกลางคนสำคัญ พ้นโทษแบนกลับมา และ สิทธิโชค กันหนู ฟิตกลับมาเป็นตัวเลือกในแดนหน้า ส่วนแกนหลักรายอื่นก็อยู่กันครบ นำโดย สุภโชค สารชาติ , จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ และ เจนรบ สำเภาดี กัปตันทีม
ญี่ปุ่น (U23) : ฮาจิเมะ โมริยาสุ มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นจากรายการ M-150 Cup ที่พ่าย ช้างศึก 1-2 จำนวน 5 ราย และล่าสุดประเดิมสนามได้สวยเมื่อเชือด ปาเลสไตน์ 1-0 อีกทั้งยังไร้ปัญหาจัดทัพ คาดว่าแกนหลักอย่าง ยูโตะ อิวาซากิ กองกลางจากเกียวโต ซังงะ , โคจิ มิโยชิ เพลย์เมกเกอร์ที่เพิ่งย้ายไปร่วมทัพ คอนซาโดเล ซัปโปโร และ โค อิทาคุระ กองหลังที่ยิงประตูชัยในเกมที่แล้ว จะออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเช่นเคย
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของ ไทย U23
นนท์
จักรกฤษณ์ , วรวุฒิ , ศฤงคาร , วันชัย
นพพล , รัตนากร
ธนาสิทธิ์ , สุภโชค , อานนท์
เจนรบ
สำหรับสถิติการพบกันนับเฉพาะรายการคัดเลือกฟุตบอลโอลิมปิก ทั้งคู่พบกัน 4 นัด ปรากฏว่า ทีมชาติไทย ไม่เคยชนะ ญี่ปุ่น ยิงได้เพียง 2 ประตู และ เสียถึง 15 ประตู