วันนี้( 17 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ฌาปนสถานวัดเม็งรายมหาราช พล.ต.ณัฐวุฒิ ชุณหะนันท์ ผบ.ร.17 เป็นประธานในการประกอบพิธีฌาปนกิจศพนายศรชัย สถิตย์รักษ์ดำรง อายุ 35 ปีบ้านเลขที่ 517 บ้านห้วยน้ำขุ่น หมู่ 16 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย ซึ่งเสียชีวิตขณะขับรถผ่านด่านตรวจชุมชนบ้านแม่ต๋ำ หมู่ 4 ต.ท่าก๊อ เหตุเกิดวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 8 รูปมาสอดอภิธรรมอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ตาย ก่อนจะนำร่างอันไร้วิญญาณไปประกอบพิธีเผาตามประเพณี โดยมีทาง พล.ต.ณัฐวุฒิ นำผ้าบังสกุลและวางดอกไม้จันทน์ และประชุมเพลิงศพ ซึ่งหลังการเผาศพทางฝ่ายกองผลทหารราบที่ 17 ได้เป็นตัวแทนมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยเป็นเงินช่วยเหลือค่าจัดการฌาปนกิจจำนวน 66,080 บาท และเงินช่วยเหลือด้านคุณธรรมอีก 200,000 บาท โดยมีทางนางนาสอ จะยอ มารดานายศรชัย น.ส.พรทิพย์ จะยอ น้องสาว และ น.ส.ศิริรัตน์ แยเบียง แฟนสาวเป็นผู้รับมอบ
โดย พล.ต.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ทางหน่วยในฐานะผู้บังคับบัญชาได้มีการช่วยเหลือเยียวยาก่อนหน้านี้ไปแล้ว ส่วนหนึ่งในวันนี้มีการช่วยเหลือเพิ่มเติม พร้อมเป็นเจ้าภาพในการจัดงานฌาปนกิจให้กับผู้ตายตามประเพณี ซึ่งพร้อมจะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ รวมถึงเรื่องของคดีที่จะมีการดำเนินคดีจนถึงที่สุดเพราะหลักฐานอะไรต่างๆ ก็มีความชัดเจน แต่ก็ได้ทำความเข้าใจกับทางญาติว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ซึ่งเด็กคนที่ก่อเหตุจริงๆก็ไม่ได้มีเจตนา โดยประวัติส่วนตัวเขาเองก็เป็นเด็กกำพร้าพ่อและแม่ โดยอาศัยอยู่กับคุณตา โดยวันที่มาตรวจเลือกทหารเองก็ยังห่มผ้าเหลืองมา แต่จับได้ใบแดง จึงต้องมารับราชการ ซึ่งเป็นคนพื้นเพที่ อ.แม่สรวย
พล.ต.ณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า จากการพูดคุยกับผู้ต้องหาเขาเองก็ยอมรับว่ารู้สึกแปลกๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการออกปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง ซึ่งเป็นภารกิจที่จะต้องออกลาดตระเวณ โดยครั้งนี้เป็นห้วงเวลาที่มาเข้าช่วยเหลือซึ่งเป็นด่านชุมชนในที่เกิดเหตุ ตามการร้องขอไป แต่มันเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ทางทหารไม่ได้นิ่งนอนใจก็พยายามแก้ไข ซึ่งทางเราเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพราะผลการยิงปืนเขาเองก็ไม่ค่อยดี ซึ่งตนเข้าใจในสถานการณ์ดีมันเกิดขึ้นเร็กมาก เมื่อมีการยิงปืนขึ้นมานัดหนึ่งเด็กก็ไม่รู้จึงมีการยิงเกิดขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะเกิดจากสัญชาตญาณหรือคิดอย่างไร เพราะทุกครั้งเขาก็ไม่คิดที่จะยิง และเคยกำชับทุกครั้งแล้วไม่จำเป็นไม่ควรใช้อาวุธปืน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเข้มงวดกับผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฎิบัติหน้าที่อย่างรอบครอบ ไม่จำเป็นจริงๆไม่ให้มีการใช้อาวุธอย่างเด็ดขาด แต่เมื่อเกิดก็ต้องรับผิดชอบและช่วยเหลือเต็มที่