ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน เผย สังเกตใบตำลึงร่วงในสวนลำไย ตามจนเจอ “รุธจิรา”
วันที่ 29 ม.ค.61 จากกรณีพบศพของนาย จูเซปเป เดอ สเตฟานี ชาวอิตาลี วัย 61 ปี ถูกฆ่าเผานั่งยางที่บริเวณป่าข้างบึงน้ำบึงทับจั่น หมู่ที่ 3 ต.แหลมรัง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร ใกล้กับองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมรัง เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่วนคนร้ายตามหมายจับ คือนางสาวรุธจิรา เอี่ยมละม้าย อายุ 38 ปี และนายอาโมรี ริโก สามีชาวฝรั่งเศส อายุ 34 ปี ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมทั้งสองคนได้ขณะหลบหนีในพื้นที่รอยต่อ จ.กำแพงเพชร กับ จ.ตากนั้น
ล่าสุดพบความน่าทึ่งในความช่างสังเกตของตำรวจสืบสวนสอบสวน ที่สังเกตเห็นใบตำลึง และใบผักกูดร่วงในสวนลำไย อ.วังเจ้า จ.ตาก จนนำมาสู่การจับกุม โดย ด.ต.ณฤต ศรีสวาท ผู้บังคับหมู่งานสืบสวนสอบสวน สภ.บึงนาราง ซึ่งเป็นตำรวจที่พบน.ส.รุธจิรา ซ่อนอยู่บนต้นลำไย เล่าว่า ขณะติดตามจับกุมผู้ต้องหาเข้าไปในสวนลำไย สังเกตเห็นใบตำลึง และใบผักกูด (ซึ่งเป็นผักที่ผู้ต้องหารับประทานยังชีพในช่วงของการหลบหนี ) ใบสดตกลงอยู่บริเวณสวนลำไย จึงเดินตามจนมาถึงต้นลำไยต้นหนึ่งที่มีใบตำลึงหลายใบตกอยู่จึงเงยหน้ามองแต่ไม่พบ เมื่อลองมองดูต้นใกล้เคียงจึงพบว่าผู้ต้องหาซ่อนตัวอยู่บนต้นลำไย จึงเข้าจับกุมในที่สุด
สำหรับการจับกุมนายอาโมรี ริโก และนางสาวรุจิรา เอี่ยมละม้าย ผู้ต้องหาคดีฆ่านั่งยางชาวอิตาลี นับว่าเป็นความสำเร็จของการปฏิบัติงานของตำรวจจากทุกภาคส่วน รวมถึง ส่วนงานที่เกี่ยวข้อง โดยใช้เวลา จำนวน 11 วัน จึงสามารถติดตามจับกุมได้สำเร็จ
โดยกุญแจสำคัญของการติดตามจับกุมนอกจากการใช้เทคโนโลยี เช่นการติดตามจากกล้องวงจรปิดแล้ว ยังมีเรื่องของความช่างสังเกตของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่ติดตามจนจับผู้ต้องหาได้ทั้งที่เป็นเรื่องยากสำหรับการติดตามจับกุมเนื่องจาก นายอาโมรี ริโก หนึ่งในผู้ต้องหาอดีตเคยเป็นสไนเปอร์ ในกองทัพฝรั่งเศส ซึ่งมีความชำนาญในการดำรงชีวิตในป่า แต่ด้วยความช่างสังเกตแม้กระทั่งใบตำลึงจึงนำมาซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้สำเร็จ