svasdssvasds

ทางออกนอกตำรา : “ยิ่งลักษณ์” มาโปรด ยึดทรัพย์ดับไฟการเมือง

ทางออกนอกตำรา : “ยิ่งลักษณ์” มาโปรด  ยึดทรัพย์ดับไฟการเมือง

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

ทางออกนอกตำรา : “ยิ่งลักษณ์” มาโปรด  ยึดทรัพย์ดับไฟการเมือง ใครจะคิดอย่างไร ผมไม่ทราบได้... แต่ผมวิเคราะห์แบบฟันธงว่า คำตัดสินของศาลปกครองกลาง ที่ยกคำขอทุเลาบังคับคดี ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังยื่นคำร้องขอทุเลาการยึดอายัดเพื่อชดใช้ความเสียหาย 3.5 หมื่นล้านบาท ในคดี "โครงการรับจำนำข้าว" เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 นั้น ทำให้คลื่นลมทางการเมืองที่กำลังถูกไฟ “เลื่อนเลือกตั้ง-นาฬิกาเจ้ากรรม” โหมกระพือใส่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนสะบักสะบอมไปทั้งตัว กลับมายืนในภาวะสมดุลแห่งอำนาจได้อีกครั้ง หากมีมือnegotiation” ที่มีศิลปะชั้นเยี่ยมเดินงาน ทำไมเป็นเช่นนั้นนะรึขอรับนายท่าน! อันดับแรก ผมพิจารณาจากกระบวนการยึดทรัพย์ ซึ่งมีขั้นตอนในการทำงานระหว่าง 2 องค์กร นั่นคือ กระทรวงการคลัง กับกรมบังคับคดี ซึ่งที่ผ่านมาในห้วงที่หัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ให้ความคุ้มครองเจ้าหน้าที่รัฐ และมอบอำนาจกรมบังคับคดี ใช้กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ไปอายัดทรัพย์ของอดีตนายกฯหญิงคนแรกของประเทศไทย ที่เป็น “กล่องดวงใจของนายใหญ่แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า” และนำมาขายทอดตลาดมานานนม ปรากฎว่าไม่มีความคืบหน้าใดๆ ผมจำได้ว่า รมว.คลัง ก็ได้ลงนามในคำสั่งทางปกครองไปเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเรียกค่าเสียหายจากคุณยิ่งลักษณ์ แต่ คุณวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยกับสื่อจนฮือฮาไปทั้งเมืองว่า หาทรัพย์ไม่พบ... ต่อมาเมื่อคณะทำงานเพื่อการสืบทรัพย์หาพบก็ส่งข้อมูลบัญชีธนาคารให้กรมบังคับคดี สั่งอายัดทรัพย์สินไว้ 7 บัญชี จากทั้งหมด 12-16 บัญชี ปัจจุบันทราบว่า เงินในบัญชีที่อายัดได้มีไม่ถึง 5 แสนบาท มาบัดนี้...อธิบดีกรมบังคับคดี ก็ออกมาบอกว่า เมื่อศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำขอทุเลาบังคับคดี ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี หลังยื่นคำร้องขอทุเลาการยึดอายัดทรัพย์ ทางกรมบังคับคดีมีหน้าที่รับไม้ต่อจากกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้เสียหาย แต่ขั้นตอนมีอยู่ว่า....ทางกระทรวงการคลังจะต้องดำเนินการสืบทรัพย์ และดำเนินการตั้งเรื่องเพื่อขอยึดอายัดทรัพย์ ดังนั้น จากนี้ไปทางกรมบังคับคดี จะต้องรอทางกระทรวงการคลังมายื่นเรื่องเพิ่มเติมต่อไปจึงจะทำงานได้...ต้องแปลไทยเป็นไทยกันอีกมั้ยขอรับพี่น้อง...ว่าขั้นตอนอีกยาว.. เมื่อขั้นตอนในกระบวนการเดินหน้ายึดทรัพย์อดีตนายกฯหญิงทอดยาวออกไป หมายถึงการเดินเกมเพื่อเข้ายึดทรัพย์ย่อมมีเวลาคิด เวลาทำ อย่างมีศิลปะ เพียงแต่ใครจะทำเท่านั้น อันดับต่อมา โปรดไปอ่านคำตัดสินของศาลปกครองกลางที่ยกคำร้องของทนายความอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ให้ดีนะครับ...ศาลบอกชัดว่า...การที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งพิพาทในระหว่างพิจารณาคดีได้นั้น ต้องมีเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนดไว้ 3 ประการ เกิดขึ้นครบถ้วน 1.คำสั่งพิพาทน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย 2.การให้คำสั่งพิพาทมีผลใช้บังคับต่อไปจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การแก้ไขเยียวยาในภายหลัง 3.การทุเลาการบังคับตามคำสั่งพิพาทไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่บริการสาธารณะ เมื่อพิจารณาจากคำขอของผู้ฟ้องคดี ซึ่งยื่นคำขอเป็นครั้งที่ 2 (ครั้งแรกเมื่อ10 เม.ย. 2560 แต่ศาลปกครองเคยยกคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีไปเเล้วครั้งหนึ่ง) และข้อเท็จจริงจากการชี้แจงของคู่กรณี รวมถึงกรมบังคับคดีแล้ว เห็นว่า แม้ผู้ฟ้องคดีจะอ้างเหตุของความไม่ชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งเรียกให้ผู้ฟ้องคดีชดใช้เงินหลายประการ และผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 4 ได้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดีบ้างไปแล้วก็ตาม แต่ในเมื่อการจะวินิจฉัยว่า คำสั่งพิพาทจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นประเด็นในเนื้อหาของคดีที่ศาลจะต้องแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาพิพากษาคดีต่อไป ในชั้นนี้จึงยังไม่อาจรับฟังได้ว่า คำสั่งพิพาทน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเห็นว่า เงื่อนไขที่ขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งพิพาทเกิดขึ้นไม่ครบถ้วน ศาลจึงไม่มีอำนาจสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งที่เรียกให้ผู้ฟ้องคดีชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไว้เป็นการชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาคดี ศาลจึงมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองของผู้ฟ้องคดี คำตัดสินของศาลจึงชี้ชัดในการให้อำนาจเจ้าหน้าที่ยึดทรัพย์เต็มกระเบียดนิ้ว คราวนี้ก็อยู่ที่ผู้ปฏิบัติในการยึดทรัพย์ละครับ “จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด” ถ้าเดินหน้าบีบก็เป็นการไล่ยึดทรัพย์จาก “สังหาริมทรัพย์” ก่อน จากนั้นจึงตามไปที่ “อสังหาริมทรัพย์” นั่นคือ บัญชีเงินฝาก บัญชีเงินที่เดินสะพัด ฝากไว้ที่ไหน โดนหมด ธนาคารปฏิเสธไม่ได้ละครับ 16 บัญชี และที่โอนออกไปสั่งได้หมด ก่อนจะถึงที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง พอไปตรวจสอบ ทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะไม่รวมของคู่สมรส (ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) มียอดรวมที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. คุณยิ่งลักษณ์ มีทรัพย์สิน 612.4 ล้านบาท หนี้สิน 33 ล้านบาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 579 ล้านบาท รายการทรัพย์สิน แบ่งเป็น เงินสด 14.3 ล้านบาท เงินฝาก 16 บัญชี รวม 24.9-25  ล้านบาท เงินลงทุน 115.5 ล้านบาท เงินให้กู้ยืม 108.3 ล้านบาท นี่ยึดได้หมดเลย เดินหน้าลุยไปแค่นี้ “ท่อน้ำเลี้ยง” ขี้คร้านจะหยุดแล้ว ถ้ายังไม่หยุดก็ใช้ศิลปะในการบริหาร “เวลาในการดำเนินการตามกฎหมาย” นี่แหละ ดำเนินการเร่งรัดยึดที่ดิน 117 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 162 ล้านบาท ยานพาหนะ 21.9 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน 569,189บาท ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะ 1.4 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น 45.6 ล้านบาท ไม่ต้องไปยึดอสังหาริมทรัพย์ที่แจ้งไว้ใน สันกำแพง ช้างคลาน จ. เชียงใหม่ และบางบอน บางบ่อ จ.สมุทรปราการ 2 แปลง 20 ล้านบาทนั่นดอกครับ ยึดทรัพย์ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ 3-4 รายการที่เป็น “หัวใจของความรัก ในชีวิตของคุณยิ่งลักษณ์และคนครอบครัว” อันประกอบด้วย.... โฉนดที่ดิน 70389 ต.คลองกุ่ม เขต บึงกุ่ม กทม. เนื้อที่ 2 ไร่ 1 งาน 95 ตร.ว. มูลค่า 13,438,000 บาท โฉนดที่ดิน 16505 ต.คลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. เนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน 82 ตรว.มูลค่า 10,562,000 บาท โฉนดที่ดิน 115536 ต.คลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. เนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน 11 ตรว. มูลค่า 52,000,000 บาท แค่นี้แรงกดดันและไฟทางการเมืองที่โหมกระพือมาก็ซาลงได้...คุณเชื่อว่าจะมีการกระทำแบบนั้นกันมั้ยครับ.. ..................... คอลัมน์ : ทางออกนอกตำรา/ หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ / ฉบับ 3336 ระหว่างวันที่ 1-3 ก.พ.2561 ทางออกนอกตำรา : “ยิ่งลักษณ์” มาโปรด  ยึดทรัพย์ดับไฟการเมือง      
related