อธิการบดีนิด้า จี้สื่อแสดงหลักฐานรับใบสั่งทหาร ลั่นพร้อมออกทันที

อธิการบดีนิด้า ระบุ หากมีใบสั่งทหารระงับโพลนิด้าจริงพร้อมลาออก สาบานด้วยชีวิตไม่เคยแก้ตัวเลขโพล เผยความสัมพันธ์ุส่วนตัว "ดร.อานนท์" คือ อาจารย์-ลูกศิษย์ เซ็นรับรองเรียน ป.เอกและเซ็นรับรองเป็นอาจารย์นิด้ากับมือ

นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดี สถาบ้นบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) แถลงข่าวกรณี การระงับผลโพล วันที่ 28 ม.ค. ปี 2561 ครั้งที่ 2 ว่า ตนเห็นว่าการทำโพลเกี่ยวกับนาฬิกาหรูไม่เหมาะสม เพราะป.ป.ช. ยังไม่มีข้อสรุป โดยเฉพาะคำถามข้อที่ 1 คือ "ปกติเพื่อของท่านเคยให้ยืมนาฬิกาแสนหรูราคาแพงมาใส่หรือไม่" เพราะคนธรรมดาย่อมไม่เคยยืมนาฬิกาหรู ซึ่งส่วนใหญ่ย่อมตอบว่าไม่เคย ทั้งนี้ เมื่อตนเห็นโพลดังกล่าว จึงส่งไลน์ในวันที่ 28 ม.ค. เวลา 00.21 น. มีข้อความว่า "ขอระงับไว้ก่อนทันมั้ยครับ เพราะเรื่องนี้ ปปช. ยังไม่ได้ข้อสรุป และอาจมีผลต่อภารกิจของนิด้า" แต่ต่อมาเวลา 10.00 น. มีเจ้าหน้าที่ว่าประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ ผอ. นิด้าโพล ประกาศลาออก และมีผู้สื่อข่าวโทรมาสอบถามข้อเท็จจริงจำนวนมาก ตนตอบว่า ไม่เหมาะสม เพราะประเด็นดังกล่าวอยู่ในการพิจารณา ป.ป.ช. และยังไม่มีข้อสรุป ดังนั้นผลโพลจะเป็นการสร้างกระแสและความวุ่นวายในสังคม ซึ่งตนให้คำตอบได้เท่านี้ เพราะยังไม่เห็นรายละเอียดของโพลทั้งคำถามและคำตอบทั้งหมด

จากนั้นตนได้พิจารณาผลโพลและข้อมูลโดยละเอียด ยกตัวอย่าง คำถามข้อ 1 "ปกเพื่อนของท่านเคยให้ยืมนาฬิกาแสนหรูราคาแพงมายืมใส่หรือไม่" คำตอบคือไม่ เพราะคนธรรมดาส่วนใหญ่ไม่เคยยืม ซึ่งการสำรวจ พบว่า มีผู้ตอบคำถามส่วนใหญ่ 61% มีการศึกษาต่อกว่าปริญญาตรี และ 55% ของผู้ตอบคำถามมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาทต่อเดือน แต่คำตอบของคนกลุ่มนี้กลับถูกนำไปคำนวณและประมวลผลเป็นคำตอบของโพล ทั้งที่คนกลุ่มนี้ร้อยทั้งร้อยไม่เคยยืมนาฬิกาหรูใส่ / อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ที่ผ่านมา การทำโพลของนิด้าโพลถูกต้องตามขั้นตอนและวิธีการทำโพล แต่การทำโพลครั้งนี้มีปัญหา ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ นายนพดล กรรณิกา อดีต ผอ. เอแบคโพล และนาย.สุขุม เฉลยทรัพย์ สวนดุสิตโพล ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ยืนยันว่า คำถามในโพลดังกล่าวเป็นการชี้นำ

คำถามในการทำโพลมี 5 ข้อ คือ

1.ปกติเพื่อนของท่านเคยใช้ยืมนาฬิกาเสนหรูราคาแพงมาใส่หรือไม่

2.หากนักการเมืองอ้างว่าทรัพย์สินมูลค่าสูงมากที่ครอบครองมาจากการหยิบยืมเพื่น ท่านเชื่อว่าเป็นการพูดความจริงหรือไม่

3.ท่านคิดว่าการอ้างเรื่องการหยิบยืมทรัพย์สินราคาแพงมาครอบครอง จะทำให้การตรวจสอบการทุจริตต่อไปในอนาคต ทำได้หรือไม่

4.ท่านคิดว่าคนที่พูดโกหก หรือพูดไม่จริง มีโอกาสประพฤติทุจริตหรือคดโกงหรือไม่

5.ท่านยอมรับพฤติกรรมการปกป้องพรรคพวกรุ่นพี่รุ่นน้องที่น่าสงสัยว่าจะทุจริต /ประพฤติมิชอบ /กระทำผิดกฎหมายได้หรือไม่

ทั้งนี้ ความสัมพันธุ์ระหว่างตนและ นายอานนท์คืออาจารย์และลูกศิษย์ เมื่อ 10 ปี ที่แล้ว เคยสอนนายอานนท์ และตอนที่นายอานนท์อยากศึกษาต่อ ตนเป็นผู้รับรอง และตอนที่นายออานนท์จบปริญญาเอกและอยากเป็นอาจารย์นิด้า ตนก็เป็นผู้รับรอง ตรวจสอบได้จากใบสมัครของนายอานนท์ ขณะที่พฤติกรรมของนายอานนท์ หากมีการหารือกันก่อนไม่ควรมีปัญหา แต่กลับอาศัยต้นทุนขององค์กรให้ตนเองโด่งดังหรือมีต้นทุนสูงขึ้น แต่คนเสียคือนิด้า

อย่างไรก็ตามตนสาบานด้วยชีวิต ว่าการเป็นอธิการบดี 5 ปี ไม่เคยแก้ไขตัวเลขโพลทั้งสิ้น แต่ตนยอมรับว่าขอดูประเด็น พราะเมื่อมีปัญหาขึ้นตนต้องรับผิดชอบ และมี 2 ครั้งเท่านั้น ที่ขอระงับผลโพล ครั้งแรก เป็นการทำโพลที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง และครั้งที่ 2 คือกรณีนายอานนท์ ที่เพิ่งทำงาน 10 วัน ซึ่งไม่ใช่การทำโพลที่ดี เพราะโพลที่ดีมีหลัก 3 ข้อ คือ 1. ทำโพลเพื่อประโยชน์สังคม ข้อนี้นายอานนท์ไม่ผ่าน เพราะชี้นำ ทั้งที่นิด้าไม่ใช่พรรคการเมือง 2. ไม่ชี้นำและความถูกต้องทางวิชาการ กรณีนี้ถูกต้อง แต่คำถามชี้นำ และ 3. ความเป็นกลาง ปราศจากอคติ ซึ่งนายอานนท์มีการโพสต์เฟซบุ๊กหลายครั้ง เช่น วันที่ 24 ม.ค. ก่อนผลโพลออก "ถ้าป้อมรอด ตู่กับคสช. ก็จะไม่รอด อยู่ไม่ได้ ขาดความชอบธรรม"

อธิการบดีนิด้า กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าเมื่อเกิดเรื่องตนรู้สึกโกรธ ที่ลูกศิษย์ปฏิบัติเช่นนี้ต่อองค์กร และนายอานนท์เป็นลูกศิษย์ตน และเสียในที่พลาดปล่อยให้คนที่ทำงาน 10 วัน สร้างความเสียหายต่อนิด้า ส่วนที่สื่อพาดพิงว่านิด้าได้รับใบสั่งจากทหาร หากมีหลักฐานว่าตนรับใบสั่งจริง ตนจะลาออกในวันที่สื่อแสดงหลักฐานทันที

ทั้งนี้ ตอบไม่ได้ว่าเมื่อ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดแล้ว จะทำโพลเรื่องนี้หรือไม่ เพราะจะต้องพิจารณาหลักการข้างตน และพิจารณาคำถามในการทำโพล รวมถึงเสียงสะท้อนสังคมที่ต้องการจัดทำโพลหรือไม่ และยืนยันว่า นายอานนท์ จะไม่มีปัญหาในการทำงาน ตนรับรองได้ และตนยังเรียกนายอานนท์ว่าลูกศิษย์ตลอด