svasdssvasds

รองปลัด กทม. ยันไม่พบ! ครูพละลงโทษเด็กบกพร่อง

รองปลัด กทม. ยันไม่พบ! ครูพละลงโทษเด็กบกพร่อง

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดทุ่งครุ ยืนยัน สอบข้อเท็จจริงจากครูพละ ไม่ได้ลงโทษเด็กแต่ให้ออกกำลังกายก่อนเริ่มเรียน

หลังการประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้ปกครองน้องเนิร์ต กับทางตำรวจและกรุงเทพมหานคร ประมาณ 30 นาที ได้ไปลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุภายในโรงเรียนวัดทุ่งครุ โดยพบสนามกีฬาที่ใช้ออกกำลังกายเป็นลานปูนที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ส่วนหนึ่ง ซึ่งเมื่อตำรวจนำสายไปวัดขนาดสนามกีฬา พบว่ามีขนาดกว้าง 21 เมตร ยาว 40 เมตร หรือเท่ากับความยาวรอบสนาม 122 เมตร

นายระวัง ลี่วิชัย ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดทุ่งครุ กล่าวว่า ได้สอบข้อเท็จจริงจากครูพละที่ควบคุมดูแลในวันเกิดเหตุ ยืนยันไม่ได้สั่งลงโทษนักเรียน แต่เป็นการวอร์มร่างกายก่อนเรียนวิชาพละศึกษา ซึ่งได้ให้นักเรียนวิ่งรอบสนาม 2 รอบ และเดินเพื่อนผ่อนคลายกล้ามเนื้อ 2 รอบ แต่เขาก็ไม่ได้เชื่อคำให้การครูพละทั้งหมด จึงได้เรียกเด็กนักเรียนในห้องทั้งกว่า 40 คน มาสอบถามก็ได้รับคำยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นการเรียนการสอนตามปกติ พร้อมให้ไปสอบถามเด็กนักเรียนคนใดก็ได้

รองปลัด กทม. ยันไม่พบ! ครูพละลงโทษเด็กบกพร่อง

ขณะที่นางสุริยา มะตะแอ พยาบาลอาสาสมัคร จากศูนย์อนามัย 59 เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ระบุช่วงเวลาที่ น้องเนิร์ต มารับการรักษาที่ห้องพยาบาล ยังมีสติสามารถพูดโต้ตอบได้ แต่ก็ได้สังเกตอาการอยู่ตลอดเวลา และได้สอบถามเบอร์โทรศัพท์จากน้องเนิร์ต โดยได้คุยกับคุณย่า ซึ่งก็ได้แจ้งอาการป่วยให้ทราบและขอให้เรียกผู้ปกครองมารับ และระหว่างรออยู่นั้น น้องเนิร์ตยังมีอาการกระหายน้ำ และลุกขึ้นไปกดน้ำรับประทานเอง และเมื่อผู้ปกครองมาถึง น้องก็ยังลืมตาได้ ซึ่งได้ให้คำแนะนำให้พาน้องไปส่งอนามัยเขตที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ผู้ปกครองเห็นว่าต้องการพาน้องไปรักษาที่โรงพยาบาลซึ่งมีเครื่องมือครบถ้วนกว่า ทั้งนี้ เธอรู้สึกเสียใจที่น้องเสียชีวิต แต่ยืนยันว่าระหว่างการรักษาที่ห้องพยาบาลได้ให้การดูแลตามขั้นตอนแล้ว และไม่ได้ให้รับประทานยาใดๆ เพราะกลัวจะเป็นผลเสียกับน้อง

รองปลัด กทม. ยันไม่พบ! ครูพละลงโทษเด็กบกพร่อง

ด้าน นายพิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการตรวจสอบ ระบุ ยังไม่พบความบกพร่องของครู ที่สั่งให้วิ่ง หรือเจ้าหน้าที่อาสาสมัครพยาบาลของโรงเรียน โดยน้องเนิร์ต ไม่ได้มีภาวะ ของผู้ป่วยฉุกเฉินต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที และไม่ได้มีอาการหมดสติ ทางโรงเรียน จึงแจ้งให้ผู้ปกครองมารับตัว และ ผู้ปกครองมีความประสงค์จะพาไปรักษาตัวที่รพ.ตากสิน เนื่องจากมีประวัติการรักษาอยู่แล้ว ย้ำว่า โรงเรียนในสังกัด กทม.มีระบบการรักษาพยาบาล และส่งตัวที่ให้สถานพยาบาลต้นสังกัดชัดเจน อย่างไรก็ตาม อาจต้องมีการปรับปรุงเรื่องตารางการสอนวิชาพลศึกษา ให้สอดคล้องกับสภาพอากาศ เพื่อป้องกันเหตุแทรกซ้อนขึ้นอีก

อย่างไรก็ตามด้านนายณัฐพล วัชรมณเฑียร บิดาน้องเนิร์ต ยืนยันว่ายังคงติดใจสงสัยประเด็นการวินิจฉัยในการรักษาน้อง โดยเชื่อว่าหากน้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงทีอาจไม่เสียชีวิต ทั้งนี้ยังได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันสืบสวนหาข้อเท็จจริง

related