svasdssvasds

พบบ้านหรูบนอ่าวเสน รุกป่าสงวนภูเก็ตกว่า 30 ไร่ เชื่อ! ออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ

พบบ้านหรูบนอ่าวเสน รุกป่าสงวนภูเก็ตกว่า 30 ไร่ เชื่อ! ออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

เจ้าหน้าที่ สนธิกำลังเข้าตรวจบ้านหรูบนอ่าวเสน จ.ภูเก็ต พบมีการรุกป่าสงวนแห่งชาติบนอ่าวเสนอีก 30 กว่าไร่ ทั้งปลูกสิ่งปลูกสร้างและสวนผลไม้ 

วันที่ 12 ก.พ.61 นายชีวภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน ผอ.กองคดีทัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยนานพิสิษฐ์ ปภากิจยศพัฒน์ รอง.นายก.ทต.ราไวย์ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ชุดพยัคฆ์ไพร ดีเอสไอ เทศบาล ต.ราไวย์ ตำรวจป่าไม้ และเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ป่าที่ 2 ภก.ตรวจบ้านหรู บนอ่าวเสน ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พบมีการบุกจับรุกป่าบนอ่าวเสนอีก 30 ไร่ และที่ผ่านมา ชาวโชเชียลได้แพร่ภาพบ้านสวยที่สร้างบดบังทัศนียภาพบนอ่าวเสนอย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งคำถามระบุว่า จุดดังกล่าวนั้นก่อสร้างบ้านหรูและร้านอาหารต่างๆ และ ออกเอกสารสิทธิ์มาได้อย่างไร ทั้งที่เดิมทีนั้น บริเวณดังกล่าวชาวภูเก็ตทราบกันดีว่าเป็นเขตป่าสงวนธรรมชาติ ซึ่งการลงพื้นที่ในวันนี้ ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ พบบ้านพักคนงานชาวต่างชาติกว่าสิบหลังปลูกอยู่ในพื้นที่ มีการทำปูนกั้นบนลานหินที่เป็นน้ำเพื่อต่อน้ำไปให้คนงานใช้ และ มีการปลูกสัปปะรด รวมถึงมีการนำอุปกรณ์การก่อสร้างมาตั้งไว้ในพื้นที่ โดยสภาพทั่วไปเป็นป่าโปร่งที่เต็มไปด้วยหินขนาดใหญ่จำนวนมาก

พบบ้านหรูบนอ่าวเสน รุกป่าสงวนภูเก็ตกว่า 30 ไร่ เชื่อ! ออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ

สอบถามคนงาน ต่างกล่าวว่า ไม่ทราบว่าที่ดังกล่าวเป็นของใคร จึงประสานไปยังนายศุภชัย บุญหนา ผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านหรูดังกล่าว เปิดเผยว่า ที่ดินที่สร้างบ้านพักคนงาน และปลูกสัปปะรดนั้นเป็นนายทุนที่เป็นเจ้าของบ้านหรู และได้อนุญาตให้สร้างบ้านพักคนงาน

เจ้าหน้าที่จึงประสานไปยังสอบถามนายทุนเจ้าของที่คนดังกล่าว ทราบว่า พื้นที่ก่อสร้างมีเอกสร้างสิทธิ์ชัดเจน โดยพื้นที่ที่ใช้ปลูกสร้างบ้านพักคนงานและสวนสัปปะรดนั้นเป็นที่ดิน ภทบ.5 จำนวน 34 ไร่ อ้างว่า เคยสอบถามเจ้าหน้าที่ป่าไม้แล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งว่าสามารถปลูกสิ่งปลูกสร้างหรือผลไม้ได้

พบบ้านหรูบนอ่าวเสน รุกป่าสงวนภูเก็ตกว่า 30 ไร่ เชื่อ! ออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ

เจ้าหน้าที่จึงให้เจ้าของนำเอกสารการครอบครองมายืนยันแต่ทางเจ้าของที่อ้างว่าไม่สามารถเดินทางมาได้ เจ้าหน้าที่จึงร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าของบ้านหรูหลังดังกล่าวในข้อหาบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ หรือ ป่าไม้ถาวร เนื่องจาก เบื้องต้นตรวจสอบแล้วว่ามีการบุกรุกป่าสงวนที่ชัดเจน ส่วนบ้านหรูที่กำลังก่อสร้างอยู่นั้น ทางดีเอสไอกำลังรวบรวมหลักฐาน เนื่องจาก คาดว่าเอกสารสิทธิ์อาจมีการคาดเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม

นายชีวภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า วันนี้บูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยลงมาตรวจสอบบ้านหรูบนอ่าวเสน เนื่องจาก ทางดีเอสไอ ยืนยันว่ามีตำแหน่งที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงและเอกสารสิทธิ์น่าจะออกโดยมิชอบ จึงลงมาตรวจสอบเพิ่มเติม แต่ปรากฎว่าพบมีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติหรือป่าถาวรเพิ่มเติมอีก 30 กว่าไร่ มีการสร้างสิ่งปลูกสร้าง การปลุกผลไม้และการครอบครองน้ำตก จึงทำการร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าของบ้านหรูที่นำคนงานบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มอีก

ทั้งนี้เนื่องจากจากการสอบสวนภาพถ่ายทางแล้วพบว่าที่ดินดังกล่าวนั้นเดิมไม่เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติชัดเจนอีกหทั้งเป็นโขดหินขนาดใหญ่ไม่มีการเพาะปลูกพืชผลอาสินใดในการจับจองเป็นเจ้าของมาก่อน

พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ในส่วนของเรื่องการบุกรุกเพิ่มเติมนั้นเมื่อทางเจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร้องทุกข์กล่าวโทษผ่านทาง ดีเอสไอ และ เห็นว่าเป็นคดีที่มีความละเอียดอ่อนและซับซ้อนจึงจะนำการรับเรื่องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาเป็นคดีพิเศษ ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกและออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดังกล่าาวต่อไป

 

related