"สมยศ" ให้ปากคำ! ปมยืมเงิน "เสี่ยกำพล" วันนี้

พลตำรวจเอกสมยศ ยืนยันเข้าให้ปากคำดีเอสไอ ช่วงบ่ายวันนี้ ชี้แจงกรณียืมเงินเสี่ยกำพล ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ 300 ล้านบาท

วันนี้( 15 ก.พ.) พันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีเชิญพลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ปากคำเรื่องกู้ยืมเงิน 300 ล้านบาท จากนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือเสี่ยกำพล ผู้ต้องหาสำคัญ คดีค้ามนุษย์สถานบริการอาบอบนวด-วิคตอเรีย ซีเครทว่า เบื้องต้นได้รับการประสานจากพลตำรวจเอกสมยศ ยืนยันว่า จะเข้าให้ปากคำในวันนี้แน่นอน แต่ขอเลื่อนจากช่วงเช้า เป็นเวลา 13.00 น. แทน

ขณะที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์บริการประชาชน บริเวณสำนักงาน ก.พ.เพื่อขอให้ตรวจสอบพลตำรวจเอกสมยศ ในฐานะอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า ตำรวจเป็นอาชีพไซด์ไลน์เท่านั้น ถือว่าผิดจริยธรรม และข้อกฎหมายอื่นๆ หรือไม่ รวมถึงให้ตรวจสอบกรณีพลตำรวจเอก-สมยศ ในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.ไม่ได้รายงานเรื่องกู้ยืมเงิน 300 ล้านบาท จากเสี่ยกำพล ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.รับทราบ ขณะเข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2557

เช่นเดียวกับนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบพลตำรวจเอกสมยศ กรณียืมเงินเสี่ยกำพล โดยนายเรืองไกร ระบุว่า จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของพลตำรวจเอกสมยศ ไม่มีการแจ้งเรื่องกู้ยืมเงิน 300 ล้านบาทเอาไว้ แต่ประเด็นนี้ เจ้าตัวอาจยืมเงินจำนวนดังกล่าว หลังเข้ารับตำแหน่งสมาชิก สนช.แล้ว และอาจมีการยื่นชี้แจงมในภายหลัง จึงเป็นข้อมูลที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่อยากให้ตรวจสอบว่า การยืมเงินครั้งนั้น มีการทำสัญญากู้ยืมเป็นลายลักษณ์อักษร

และเสียดอกเบี้ยให้เสี่ยกำพล ถูกต้องหรือไม่ เพราะหากไม่มีการเสียดอกเบี้ย จะเข้าข่ายได้รับผลประโยชน์อื่นใด ตามมาตรา 103 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และมีโทษตามมาตรา 122 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท นอกจากนี้ อยากให้กรมสรรพากร เข้ามาตรวจสอบในประเด็นภาษีจากเงินกู้ยืมดังกล่าวอีกทางหนึ่ง

ชมคลิป

https://www.youtube.com/watch?v=B2lrWe5spsM