ระบบสำคัญสุด!"โค้ชเฮง" ย้ำโค้ชเยาวชนทีมชาติต้องเข้าใจ "ไทยแลนด์ เวย์"

"โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เปิดเผยรายชื่อ 3 หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนทีมชาติไทยเรียบร้อยแล้ว โดยรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี เป็น "โค้ชดาท" ธงชัย รุ่งเรืองเลิศ ส่วนรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เป็น "โค้ชหระ" อิสระ ศรีทะโร และรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เป็น "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ

โดยหลังจากมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทีมเยาวชนทีมชาติไทย "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เปิดเผยว่า "เรื่องโค้ชทีมชุดเยาวชนเป็นไปตามโผที่ออกมา คือ ทีมชาติไทย U21 จะเป็น วรวุธ ศรีมะฆะ นี่คือครั้งแรกที่เราวางโมเดลของทีมชาติ เพราะปกติเราไม่มีโอกาสได้วางโมเดลทีมชาติ ว่าแต่ละทีมจะเล่นอย่างไร ถ้าโค้ชทุกคนเข้าใจโมเดลตรงนี้ ผมว่าใครก็เป็นโค้ชก็ได้ ซึ่งเราให้โอกาส "โค้ชโย่ง" ก่อน เพราะเขาเคยทำชุดนี้ ก็ทำไปจนถึงอายุ 23 ปี และมีผู้เล่นให้เขาเลือกทั้งหมดจำนวน 50 คน"

"ส่วนเรื่องโค้ชทีมชาติไทย U19 จะเป็น อิสระ ศรีทะโร ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยของ โค้ชโย่ง และคลุกคลีกับผู้เล่นรุ่นอายุ 19 ปี เป็นอย่างดี และเขาก็พาทีม บุรีรัมย์ คว้าแชมป์ฟุตบอลโค้กคัพ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี"

"ขณะที่โค้ชทีมชาติไทย U16 จะเป็นโค้ช ธงชัย รุ่งเรืองเลิศ เพราะการที่เขาเข้ามาเป็นเพราะเขาผ่านการอบรม โปรไลเซนส์ และคะแนนภาคปฏิบัติของเขาทำดีที่สุดในกลุ่มโค้ชจำนวนเกือบ 20 คน ซึ่งเขาเหมาะกับการฝึกเยาวชน และคลุกคลีกับเยาวชนมาก่อน ก็คงจะทำร่วมกับ สราวุฒิ สุขแสวง ที่เคยทำชุดนี้มาก่อน ทั้งหมดจะเป็นโมเดลเดียวกัน คือ ไทยแลนด์ เวย์ ส่วนของเอคโคโน เราให้เขาไปดูแลสร้างเด็กรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี"

"ในเรื่องสัญญา คือผมอยากให้โค้ชไทยเหมือนกับโค้ชต่างชาติ คือ เซ็นสัญญาระยะเวลา 1-2 ปี ไม่ใช่ว่าทำเป็นพาร์ทไทม์ 1 ทัวร์นาเมนต์แล้วเลิก ซึ่งการทำงานก็จะมีฝ่ายเทคนิคควบคุม"

"ในส่วนของ ธงชัย รุ่งเรื่องเลิศ และ อิสระ ศรีทะโร เขาได้พูดคุยกับสโมสรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็อาจจะมีการจ่ายค่าชดเชยให้กับเขา และน่าจะมีการให้สัญญาระยะเวลา 1-2 ปี"

"การทำระดับฟุตบอลเยาวชนต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้นบางทีสองปีอาจจะน้อยเกินไป ส่วนเรื่องที่ฟีฟ่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ผมมองว่าฟุตบอลทุกรายการก็จะมีการเปลี่ยนแปลง อย่างเช่น เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ มันก็อยู่ที่การเตรียมตัวของแต่ละประเทศ"

"ส่วนเรื่องที่คุยกับ ราเยวัช ก็มีสามรายการที่ต้องเตรียมตัว คือ คิงส์ คัพ, เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ และ เอเชียน คัพ ซึ่งสองรายการหลังมันใกล้เคียงกันมาก ในเรื่องของเวลา ในส่วนของผู้เล่นไม่ว่าชุดไหนก็ตามเราต้องทำตามความคาดหวังของคนไทยอยู่แล้ว คือ แชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ไม่ว่าจะใช้ผู้เล่นชุดไหนก็ตาม ถ้าไม่ได้แชมป์ก็ต้องกลับบ้าน รวมถึงตัวผมด้วย"

"ถ้าเราบอกว่าจะเอาเด็กใหม่ไปเล่น เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ แล้วไม่ได้แชมป์ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องดี งานที่ผมทำผมภูมิใจมาก ในเรื่องของการวางโครงสร้างระดับเยาวชน เรื่องโค้ช และล่าสุดที่เราให้เอคโคโนไปทำเด็กๆ ก็เป็นโอกาสของผมในการวางโมเดลทีมชาติ ซึ่งมันไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งโมเดลนี้มันจะอยู่กับฟุตบอลไทยไปตลอดกาล "