นครบาลแถลงผลระดมกวาดล้างอาชญากรรม รวมผู้ต้องหาสำคัญหลายราย พร้อมยึดของกลางกัญชา พืชกระท่อม และยาบ้า หลายรายการ
พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.คณบดี เลิศอมรศักดิ์ ผกก.กก.สส.บก.น.2 พ.ต.ท.นิรันดร ฟักสุบัน ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.ท.นิคม ศรเหล็ก รอง ผกก.สส.บก.น.2 และเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.2 แถลงผลระดมกวาดล้างอาชญากรรมระหว่างวันที่ 22 ก.พ.-1 มี.ค. ในพื้นที่ บก.น.2 โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 43 คน ยึดของกลางกัญชากัญชาแห้ง 0.50 กรัม พืชกระท่อม 2 ต้น 2 ขวด ยาบ้า 24,095 เม็ด ไอซ์ 17.69 กรัม เครื่องกระสุนปืน 6 นัด ปืนปากกา 1 กระบอก
โดยมีคดีคดีที่น่าสนใจดังนี้ พล.ต.ต.เอกชัย แถลงจับกุมนายวรัญญู หรือเต้ย ปราบพินาศ อายุ 25 ปี จับกุมได้ที่บริเวณริมคลองเปรมประชากร ถนนกำแพงเพชร 6 ซอย 7 แยก 2 แขวงดอนเมือง เขต ดอนเมือง กรุงเทพฯ เม็ด เมื่อวันที่ 24 ก.พ. เวลา 21.55 น.
สืบเนื่องจากเมื่อก่อนการจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ตำรวจ กก.สส.บก.น.2 ได้ทำการสืบสวนขยายผลการจับกุมผู้เสพยาเสพติดจนไปสู้ผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ จนกระทั่งทราบข้อมูลผู้ค้ายาเสพติดคือนายวรัญญูหรือเต้ย ปราบพินาศ เป็นสมาชิกเครือข่ายการค้ายาเสพติดขนาดใหญ่ในพื้นที่ สน.ดอนเมืองและใกล้เคียง โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำโดยผู้ต้องหามีหน้าที่เก็บพักยาเสพติดและนำออกจำหน่ายให้กับผู้ค้ารายย่อยและผู้เสพในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหาเรื่อยมาจนทราบว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้เก็บพักยาเสพติดไว้ที่บ้านเลขที่ 4/290 ซ.โกสุมรวมใจ 43 แยก 21 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร จนเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2560 ที่ผ่านมา ตำรวจได้ขออนุมัติหมายค้นศาลอาญาที่ 371/2560 เข้าค้นบ้านหลังดังกล่าว ได้ของกลางเป็นยาบ้า 50,000 เม็ด แต่ผู้ต้องหาดังกล่าวหลบหนีไปได้
ด้านพ.ต.อ.คณบดี กล่าวว่า ทางตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับศาลออกหมายจับนายวรัญญูหรือเต้ยไว้ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 223/60 ลง 30 มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน บก.น.2 สืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้หลบหนีไปอยู่บริเวณริมคลองเปรมประชากร ถนนกำแพงเพชร6ซอย7แยก2 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง จากการตรวจสอบประวัตินายวรัญญูหรือเต้ย ผู้ต้องหาพบว่า ปี 2553 เคยต้องโทษคดีทำร้ายร่างกายให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส ปี 2555 คดี เคยต้องโทษครอบครองยาเสพติด ปี 2558 เคยต้องโทษคดีครอบครองยาเสพติด ก่อนที่จะถูกจับกุมได้ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง ดำเนินการตามกฎหมาย
อีกคดี พ.ต.ท.กฤษณ์พนธ์ เพ็ชรสดศิลป รอง ผกก.สส.สน.ทุ่งสองห้อง แถลงผลการจับกุม นายสุกวี หรือปิ๋ว ชูเสนาะ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 700/1 ถ.พหลโยธิน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และนายชยางกูรหรือเก็จ สาคร อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/247 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 348 และ 349/2561 ลงวันที่ 25 ก.พ.2561 ตามลำดับ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีขาว หมายเลขทะเบียน 6กล7635 กทม. และรถ จักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน 6กด5645 กทม. จับกุมได้บริเวณริมถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ต.สามเมือง อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
พ.ต.ท.กฤษณ์พนธ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 16.20 น.วันที่ 25 ก.พ. นายนรินทร์ ศรีวารัตน์ และนายณัฐพงศ์ สง่าวงศ์ ถูกยิงเสียชีวิตภายในซ.แจ้งวัฒนะ5 หลังไปร่วมงานเลี้ยงอุปสมบทที่สำนักงานเขตบางเขน จาการสอบสวนทราบว่าผู้ตายมีเรื่องชกต่อยกันกับวัยรุ่นอีกกลุ่มภายในงาน หลังร่วมงานเลี้ยงเสร็จกลุ่มผู้ตายประมาณ 10 คนมานั่งดื่มกินกันต่อที่ร้านก๋วยเตี๋ยวกลาง ซอยแจ้งวัฒนะ5 กลุ่มผู้ต้องหาได้ตามมาและเข้ามาชกต่อยกับกลุ่มผู้ตายโดยนายชยางกูร หรือเก็จ เป็นคนลงไปชกต่อยหนึ่งในกลุ่มผู้ตาย ต่อมาผู้ตายทั้ง 2 จะลุกขึ้นมาช่วยนายสุกวี หรือปิ๋ว จึงใช้อาวุธปืนที่พกมายิงทั้ง 2 คนจนเสียชีวิตก่อนแยกย้ายกันหลบหนี
พ.ต.ท.กฤษณ์พนธ์ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายสุกวี และนายชยางกูร จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ และออกติดตามกดดันอย่างต่อเนื่องต่อมาฝ่ายสืบสวนได้รับการประสานจากญาติผู้ต้องหาทั้งสองคนจะพาผู้ต้องหาเข้ามอบตัว ซึ่งนายชยางกูร ได้เข้ามอบตัววันที่ 26 ก.พ. เวลา 11.00 น. ส่วนนายนายสุกวี ได้เข้ามอบตัววันที่ 27 ก.พ. จากการสอบสวนนายชยางกูร ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงไปต่อยเท่านั้นไม่ได้ลงมือยิง ไม่ทราบว่าใครพกปืนไปก่อเหตุ ส่วนนายสุกวี ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
เบื้องต้นแจ้งข้อหา"ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร" อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามผู้ที่ร่วมก่อเหตุอีก 4 คนมาดำเนิคดีตามกฏหมายต่อไป