โดนแล้ว!!...กองปราบเดินหน้า เอาผิดคนแจ้งความเท็จถูกหวย

พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รองผู้กำกับการกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพื่อขอความเป็นธรรม หลังมีผู้แจ้งความดำเนินคดียอกทรัพย์ สลากกินแบ่งรัฐบาล ใน 2 คดี คือคดีสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่า 12 ล้านบาท ที่จังหวัดบุรีรัมย์ และคดีสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่า 30 ล้านบาท ในพื้นที่ สน.ประเวศ และจังหวัดอุดรธานี

ซึ่งจากการสอบสวน พบว่า คดีที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีการพิสูจน์ชัด ว่า นายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง ที่เป็นผู้ไปแจ้งความที่ สภ.นางรอง อ้างถูกญาติของซึ่งเป็นเด็กนำสลากกินแบ่งรัฐบาล ถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 ส.ค. 2560 จำนวนเงิน 12 ล้านบาท ไปให้กับสามีภรรยาชาว จ.ร้อยเอ็ด นำไปขึ้นเงิน เป็นการคิดไปเองขอผู้กล่าวหา เพราะไม่พบความเชื่อมโยงรู้จักกัน ระหว่างเด็กและสามีภรรยา

โดยผลการตรวจสารพันธุกรรม หรือ DNA ก็ไม่พบ DNA ของนายพันธุ์ศักดิ์ ปรากฎอยู่ ส่วนผลการสืบสวนชัดเจนว่าคดีนี้ไม่ได้ทำเป็นขบวนการ เบื้องต้นพ่อของเด็กที่ถูกกล่าวหา ได้ไปแจ้งความเอาผิดนายพันธุ์ศักดิ์ ใน 2 ข้อหา ฐานแจ้งความเท็จและดูหมิ่นผู้อื่นฯ ซึ่งนายพันธุ์ศักดิ์ได้ไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

ส่วนอีกคดีซึ่งเป็นการแจ้งความดำเนินคดีใน 2 พื้นที่ คือ สน.ประเวศปี 2559 และสภ.ดงเย็น จังหวัดอุดรธานีปี 2560 ของนางเรวดี หาแก้ว ที่กล่าวหาว่าถูกเพื่อนที่หุ้นเงินกันซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 เมษายน 2559 และงวดเดือนเมษายน 2560 ยักยอกเงินรางวัลมูลค่า 30 ล้านบาท ทั้งสองงวด

ซึ่ง สองคดีมีการรวมสำนวนการสอบสวนของกองกำกับการ 1 และ 3 เข้าด้วยกัน และอยู่ระหว่างเตรียมตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาในสัปดาห์นี้ จากนั้นจะเรียกให้นางเรวดี เข้าให้ปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง สำหรับผลการตรวจสอบเส้นทางแจกจ่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ไปยังผู้ค้ารายต่างๆ จะชัดเจนว่า สลากรางวัลที่ 1 ไม่ได้ส่งไปขายในแผงลอตเตอรี่ที่นางเรวดี กล่าวอ้าง ส่วนคดีนี้จะมีการทำเป็นขบวนการหรือไม่ ต้องขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งหลังตั้งคณะพนักงานสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว