"บิ๊กอ๊อด" ยันไม่ได้รับเงินจาก กกท.-ฟีฟ่า ตามที่ "ผู้พันหลอ" อ้าง

จากกรณีที่ พ.อ.วรวุฒิ ทองศรีงาม อดีตเลขาธิการสมาคมฯ ชุดเก่า ได้ออกมายืนยันว่า สมาคมฯ ชุดเก่าได้ทิ้งเงินจากสิทธิประโยชน์จำนวนหลายพันล้านบาทไว้ให้ สมาคมฯ ชุดปัจจุบันได้ใช้จ่าย และบริหารงานต่อไป

ล่าสุด “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า สัญญาลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลทุกลีกของประเทศไทย เป็นสัญญาที่สมาคมทำไว้กับ ทรู วิชั่นส์ 4 ปี ต่อเนื่องจากการบริหารงานของสมาคมชุดเก่า แต่เมื่อตนเข้ามารับหน้าที่ต่อ ได้มีการปรับสัญญา ที่คิดว่า เสียเปรียบ หรือได้เปรียบมากจนเกินไป ให้อยู่ในสภาพที่ยอมรับได้ทั้ง 2 ฝ่าย

ในส่วนของสัญญา 4 ปีนี้ มีค่าตอบแทนที่ไม่เท่ากัน ปีแรก 650 ล้านบาท ปีที่สอง 900 ล้านบาท ปีที่สาม 1,050 ล้านบาท และปีที่สี่ 1,150 ล้านบาท รวม 3,750 ล้านบาท ซึ่งปีแรกเงินค่าตอบแทน 650 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้มากมาย สมาคมฯ ต้องมาบริหารค่าใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง และในปีนั้น การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ได้ระงับการสนับสนุนเงินตอบแทนไทยลีก และยังต้องจ่ายเงินภาษี เกือบ 200 ล้านบาท รวมถึงเงินค่าผู้ตัดสิน ไทยลีก 1 และ 2 ที่ปกติจะได้รับเงินสนับสนุนจาก กกท.  ซึ่งต้องยอมรับว่าผ่านปีแรกมาได้ก็เพราะการกู้เงินนอกระบบ และได้รับความกรุณาจากแพลนบีที่ให้เบิกเงินค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

ขณะที่เงินสนับสนุนจากฟีฟ่า หรือเอเอฟซี ในการผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก “บิ๊กอ๊อด” ยืนยันว่า ทางสมาคมฯ ไม่ได้รับเงินจำนวนนี้ เนื่องจาก ฟีฟ่า ไม่จ่ายให้ เพราะมองว่า การบริหารงานของสมาคมฯ ชุดเก่าไม่โปร่งใส กระทั่งส่งทีมเข้ามาตรวจสอบ ดังนั้นสิ่งที่ พ.อ.วรวุฒิ พูดว่า สมาคมฯ ชุดเก่าหาเงินไว้ให้เป็นเรื่องจริง แต่ไม่ได้จริงทั้งหมด เพราะสมาคมฯ ยังไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด

พล.ต.อ.ดร.สมยศ ยังได้กล่าวถึงการทำงานในสมาคมฯ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา สมาคมฯ ฟุตบอลชุดนี้แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากแก้ปัญหาของสมาคมฯ ชุดเก่า แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ สมาคมฯชุดนี้ เข้ามาเปลี่ยนแปลงให้ฟุตบอลไทยมีระบบมากยิ่งขึ้น รวมถึงได้มีการสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ และเริ่มพัฒนาเยาวชนตั้งแต่อายุ 10-12 ปี ซึ่งถึงแม้จะไม่เห็นผลในเวลาอันใกล้นี้ แต่เชื่อว่าในอนาคตฟุตบอลไทยจะพัฒนาเทียบเท่าบรรดายักษ์ใหญ่ในเอเชียอย่างแน่นอน

สำหรับผลงานของทีมชาติไทยในยุคของ “บิ๊กอ๊อด” นั้น สามารถคว้าแชมป์ ฟุตบอลคิงส์คัพได้ 2 สมัย รวมถึงแชมป์ซีเกมส์ และแชมป์ซูซุกิ คัพ อีก 2 สมัย

ขอบคุณภาพจาก Fair