svasdssvasds

เปิดใจ "น้องแบม" เน็ตไอดอล ยันรักสถาบัน แต่ไม่ขอรับใบประกาศเกียรติคุณ ขอรอกระบวนการสอบสวนจบ

เปิดใจ "น้องแบม" เน็ตไอดอล ยันรักสถาบัน แต่ไม่ขอรับใบประกาศเกียรติคุณ ขอรอกระบวนการสอบสวนจบ

“น้องแบม” ย้ำชัดรักสถาบันฯ-รักคณะ และรักในสาขาวิชาที่เรียนมา ที่ไม่ไปรับรางวัลเพราะนัดหมายผิดพลาด ขอรอผลสรุปการสอบสวนจากคณะกรรมการ มมส.ก่อน พร้อมระบุเรียนเรื่องการปราบคอร์รัปชั่นมาตั้งแต่เด็ก ถ้าไม่ทำก็เหมือนกับว่าไม่รักประเทศ ขอบคุณทุกกำลังใจ ยืนยันเดินหน้าสู้ต่อไปเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้

น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือ"น้องแบม"นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวิชาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคามหรือ มมส. ที่ออกมาร้องเรียนและเปิดโปงขบวนการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวสปริงนิวส์ว่า การไม่เดินทางไปรับทุนการศึกษา และเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติจากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มมส. เมื่อวาน( 7 มี.ค.)เป็นเพราะการประสานที่ผิดพลาดและคลาดเคลื่อน เนื่องจากมีอาจารย์และเจ้าหน้าที่ติดต่อกันมาซ้ำซ้อนกันและรวดเร็วเกินไป เดิมติดต่อให้มารับทุนการศึกษาในวันนี้(9 มี.ค.)แต่อาจารย์อีกท่านแจ้งไปเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 6 มี.ค.ว่าจะขอมอบรางวัล ทำให้เกิดความสับสนว่าเป็นรางวัลเดียวกันหรือแยกกัน เพราะงานกำหนดจัดที่คณะฯ อีกทั้งทุนการศึกษาและเกียรติบัตรที่คณะฯจะ มอบให้นั้น โดยส่วนตัวและครอบครัวยังไม่ขอรับ และขอรอผลการสอบสวนของคณะกรรมการ สภา มมส. ให้แล้วเสร็จเสียก่อน เพราะขณะนี้เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการสอบสวนแล้วใน 4 ประเด็นหลัก ประกอบด้วยเรื่องการสั่งกราบเท้า,การทำร้ายร่างกาย,การไม่ให้การช่วยเหลือนักศึกษาในปกครอง และการละเมิดสิทธิ์นักศึกษา

เปิดใจ "น้องแบม" เน็ตไอดอล ยันรักสถาบัน แต่ไม่ขอรับใบประกาศเกียรติคุณ ขอรอกระบวนการสอบสวนจบ

              “ หนูรักในสถาบัน รักในคณะฯ รักในสาขาที่เรียนมา ที่ตัดสินใจไม่รับรางวัลครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด และหนูขอไม่พูดกับคณะครูที่เปรียบเสมือนแม่คนที่ 2 ของหนู เพราะตั้งแต่เด็ก นอกจากจะอยากเป็นทหารแล้ว ยังใฝ่ฝันอยากเป็นนักพัฒนาชุมชนเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ คนเร่ร่อน คนยากคนจน จึงตัดสินใจเลือกเรียนสาขาวิชานักพัฒนาชุมชน โดยมีหัวหน้าภาควิชาและอาจารย์ที่สอน ที่เป็นเสมือนแม่อีกท่านหนึ่ง ที่คอยสั่งสอนตลอดระยะเวลา 4 ปี พอหนูเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ก็นำเรื่องไปบอกแต่กลับถูกกระทำในลักษณะเช่นนี้ หนูจึงต้องออกมาเรียกร้องสิทธิ์และสิ่งที่ถูกต้องให้กับตัวเองและครอบครัวด้วยเช่นกัน ส่วนการออกแถลงการณ์ของคณะกรรมการ ที่มหาวิทยาลัยฯแต่งตั้งขึ้น โดยสภาคณาจารย์และองค์กรนิสิต มมส.ได้ร่วมขับเคลื่อนนั้น คาดว่าจะออกในวันจันทร์ที่จะถึงนี้(12 มี.ค.)”

เปิดใจ "น้องแบม" เน็ตไอดอล ยันรักสถาบัน แต่ไม่ขอรับใบประกาศเกียรติคุณ ขอรอกระบวนการสอบสวนจบ

น.ส.ปณิดา กล่าวด้วยว่า ขอขอบคุณทุกกำลังใจจากใจจริง ที่ให้การสนับสนุนและให้กำลังใจมาตลอด วันนี้ได้ถูกยกให้เป็น"เน็ตไอดอลด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น"ยอมรับว่าตกใจมาก เพราะมีการเผยแพร่ผ่านโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ ครอบครัวและเพื่อนๆต่างส่งไปให้ดูทุกวัน และยังคงมีข้อความผ่านสื่อฯหรือข้อความที่ส่งให้โดยตรงอีกจากหน่วยงานทั้งภาครัฐภาคเอกชน รวมทั้งผู้ที่ติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่ให้กำลังใจให้การสนับสนุนในสิ่งที่ทำ เพราะถือเป็นการแสดงออกถึงการต่อต้านคอร์รัปชั่นและการกระทำที่นำคนผิดมาลงโทษ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นกับคนจน คนยากไร้ ผู้ป่วยโรคเอดส์ และผู้ตกทุกข์ได้ยาก บุคคลเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลือ แต่กลับมาถูกเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในการทำงานเพื่อชุมนและสังคมตามที่ได้รับมอบหมาย มากระทำผิดและทุจริตนำเงินช่วยเหลือไปใช้อย่างผิดประเภท ซึ่งส่วนตัวไม่ทราบว่านำเงินของคนยากคนจน คนยากไร้และคนที่ต้องการได้รับการช่วยเหลือ ไปใช้ได้อย่างไร ตรงนี้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.และ คสช. ควรสืบหา สอบสวน เอาคนผิดมาดำเนิคดีตามกฎหมายให้ได้ทั้งหมด และเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมนั้นมีอยู่จริง

               “  หนูถูกสั่งสอนมาโดยตลอดในเรื่องของการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะครอบครัวเน้นย้ำเสมอในเรื่องระเบียบวินัยและเรื่องของการทำในสิ่งที่ถูกต้อง ยอมรับว่ากลัวและร้องไห้คนเดียวมาตลอด หลังจากที่ตัดสินใจร้องเรียนต่อ คสช. จนนำมาสู่การสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และมารู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่เฉพาะที่จังหวัดขอนแก่น แต่กระจายไปทั่วทั้งประเทศ เรื่องการสืบสวนก็ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำเต็มที่และนำความจริงมาเสนอต่อสาธารณชน เพราะเป็นการกระทำกับคนยากคนจน คนยากไร้อย่างแท้จริง นักพัฒนาชุมชนไม่ควรทำมาแบบนี้ หนูไม่เสียใจที่เรียน มมส. ไม่เสียใจที่เรียนคณะมุนษยฯและสาขาวิชาพัฒนาชุมชน การออกมาร้องเรียนในสิ่งที่ผิด หนูคิดดีแล้ว ทำดีแล้ว และตั้งใจที่จะเดินหน้าสู้ต่อไป เพื่อตัวหนูเองและคนยากคนจน อีกอย่างถ้าเรารู้ว่าผิด ถ้าเรายังคงทำต่อไป เหมือนกับว่าเราไม่ทำอะไรให้กับประเทศ เหมือนกับว่าเรานั้นไม่รักชาติอีกด้วย”

น.ส.ปณิดา กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า จากนี้ไปเหลือเวลาเพียงแค่ 2 เดือนที่จะสำเร็จการศึกษา ขอทำหน้าที่นิสิตลงพื้นที่ทำวิจัยเก็บข้อมูลตามระยะเวลาที่มหาวิทยาลัยฯกำหนด เพื่อให้สำเร็จการศึกษาได้ทันพร้อมกับเพื่อนๆ ที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายโดยตลอด แม้จะถูกหลายหน่วยงานและสื่อมวลชนต่อว่าบ้าง แต่ก็ถือว่าทำอย่างเต็มที่แล้ว จากนี้ไปขอมุ่งมั่นในเรื่องเรียนอย่างเดียวเพื่อให้สำเร็จการศึกษา และก้าวสู่การเป็นนักพัฒนาชุมชนที่ดีตามที่ตั้งใจไว้

related