svasdssvasds

อัจฉริยะ หอบหลักฐานเอาผิด "ป้าติ้น" ให้กองปราบ พร้อมแจ้วความเอาผิดหมวดโค้ก

อัจฉริยะ หอบหลักฐานเอาผิด "ป้าติ้น" ให้กองปราบ พร้อมแจ้วความเอาผิดหมวดโค้ก

ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานเอาผิด "ป้าติ้น" มอบกองปราบ พร้อมแจ้งความเอาผิดหมวดโค้ก ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำพยานหลักฐาน ที่ นางเรวดี หาแก้ว หรือ ป้าติ้น นำหลักฐานเอกสารลับทางราชการ ไปเปิดเผย เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บังคับการกองปราบปรามเพื่อดำเนิคดี ฐานลักทรัพย์เอกสารลับทางราชการ , นำไปซึ่งเอกสารลับทางราชการ และเอาเอกสาราาชการลับไปเปิดเผย และดำเนินคดีกับ ร.ต.ท. สมประสงค์ ปสาทรัตน์ หรือ หมวดโค้ก รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลประเวศ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157

อัจฉริยะ หอบหลักฐานเอาผิด "ป้าติ้น" ให้กองปราบ พร้อมแจ้วความเอาผิดหมวดโค้ก

ซึ่ง นางเรวดี นำเอกสารที่ได้จาก ร.ต.ท.สมประสงค์ ไปเปิดเผยต่อสาธารณะ โดยอ้างว่า ร.ต.ท.สมประสงค์ ฝากเอกสารมามอบให้กับตำรวจกองปราบ แต่ข้อเท็จจริง ยังไม่มีการโอนคดีมายังกองปราบปราม ไม่มีพนักงานสอบสวนกองปราบปรามขอเอกสารจาก ร.ต.ท.สมประสงค์ ตามที่กล่าวอ้าง

จากการตรวจสอบพบว่า นางเรวดี และ ร.ต.ท.สมประสงค์ มีความสนิทสนมเกินกว่าตำรวจและผู้แจ้งความทั่วไป และร.ต.ท.สมประสงค์ ยังได้นำหลักฐานไปเบิกความต่อศาลในคดีที่นางเรวดี ยื่นฟ้องนางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ หรือป้าดา ในฐานยักยอกทรัพย์ ทั้งที่รู้ว่าไม่มีพยานหลักฐาน และคณะกรรมการรับผิดชอบคดีของกองบัญชาการตำรวจนครบาลสั่งไม่ฟ้อง โดยใช้ตำแหน่งยืนยันว่านางเรวดี ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล จริงจนศาลประทับรับฟ้อง จนนางสุดารัตน์ ถูกคุมขัง 3 วัน

อัจฉริยะ หอบหลักฐานเอาผิด "ป้าติ้น" ให้กองปราบ พร้อมแจ้วความเอาผิดหมวดโค้ก

ก่อนหน้านี้นางสุดารัตน์ และนางจรูญ (สงวนนามสกุล) หรือป้าติ้ว จะเดินทางมาแจ้งข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง แต่เนื่องจากถูกข่มขู่ผ่านทางโทรศัพท์ ไม่ให้เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม จึงไม่กล้าเดินทางมา สอดคล้องกับก่อนหน้านี้ที่นางเรวดี นำทหารมาข่มขู่ และพยายามยึดโทรศัพท์มือถือ ผู้เสียหายทั้ง 2 คนจึงได้มอบอำนาจให้นายอัจฉริยะ ดำเนินการ

สำหรับการสอบปากคำวันนี้ พล.ต.ต.ธีระพงศ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ได้เดินทางมาร่วมสอบปากคำนายอัจฉริยะด้วย พร้อมเปิดเผยว่าได้มีการแต่งตั้งพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และได้ส่งหมวดโค้กกลับไปปฎิบัติหน้าที่ พนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจนครบาลประเวศตามเดิม ส่วนกรณีที่เคยมีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 เนื่องจากหมวดโค้กทำสำนวนค้างจำนวนมาก และเป็นการบริหารงานภายใน

ขณะเดียวกันผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ได้ปฏิเสธถึงกระแสข่าว ที่ว่าหมวดโค้ก เป็นหน้าห้องให้กับตัวเอง อีกทั้ง คดีดังกล่าวเกิดขึ้น ก่อนที่ตัวเองจะมาปฏิบัติหน้าที่ ที่ผ่านมา หมวดโค้ก ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟังและไม่เคยมาปรับทุกข์ ส่วนตัวเองมารับทราบจากข่าวเมื่อหนึ่งถึงสองวันที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่าหากกรรมการตรวจสอบพบการกระทำความผิด หมวดโค้ก ก็จะต้องถูกดำเนินคดี

related