รับไม้ต่อ!ปศุสัตว์ชี้เก็บภาษี“หมา-แมว"เป็นเรื่องดีแก้ปัญหาสัตว์เลี้ยงจรจัดได้
อธิบดีกรมปศุสัตว์รับลูกปลัดกระทรวงสาธารณสุข ชี้เก็บภาษีสุนัขและแมวเป็นเรื่องดี มั่นใจในอนาคตทำได้ โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการเก็บภาษี ควบคู่กับการแก้ปัญหาสุนัขและแมวจรจัด ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ขณะที่สังคมโซเซียลส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ชี้ไม่เหมาะกับจริตสังคมไทย
วันที่ 19 มี.ค.61 นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวถึงกรณีที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข เสนอความคิดให้มีการเก็บภาษีสุนัขและแมวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสุนัขจรจัดและติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าว่า แนวคิดดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ดี และสามารถทำได้ในอนาคต แต่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้ เพราะกระบวนการในการดำเนินการนั้นยังมีอีกหลายขั้นตอน ซึ่งทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละจังหวัด ที่ประกอบด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) และ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จะต้องรับไปดำเนินการจัดเก็บภาษี
นอกจากนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องดำเนินการสำรวจประชากรสัตว์เลี้ยง ทั้งสุนัขและแมวในพื้นที่ และมีมาตรการป้องกันไม่ให้สุนัขและแมวเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ประกอบด้วย
- จะต้องควบคุมและป้องกันไม่ให้มีสุนัขและแมวจรจัดในพื้นที่
2.ผู้เลี้ยงจะต้องไม่ปล่อยให้สุนัขหรือแมว ออกไปเร่ร่อนนอกบ้าน
- นำสุนัขและแมวไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และ
- ผ่าตัดทำหมันสุนัขและแมวเพื่อควบคุมจำนวนประชากรสัตว์เลี้ยง
อธิบดีกรมปศุสัตว์ ย้ำว่าการดำเนินการทั้งหมดจะช่วยจัดระเบียบสัตวฺเลี้ยง สุนัขและแมว ซึ่งทางองค์กรปกครองท้องถิ่นจะเป็นผู้เก็บภาษีจากผู้เลี้ยง หรือเจ้าของสัตว์เลี้ยง ควบคู่กับงบประมาณขององค์กรปกครองท้องถิ่นเพื่อเข้าไปดูแลสุนัขและแมวจรจัด ซึ่งก็จะช่วยลดปัญหาต่างๆ ลงได้
ด้านสังคมโซเชียลต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการแนวคิดเก็บภาษีสุนัขและแมว โดยเฉพาะเว็บดังอย่างพันทิป ซึ่งกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยมองว่าหากผู้เลี้ยงไม่ดูแลสุนัขหรือแมวจนปล่อยให้เกิดปัญหา ก็ควรจะจับและปรับผู้เลี้ยงเป็นรายๆ ไป ดีกว่าจัดเก็บภาษีผู้เลี้ยงทั้งหมด ซึ่งการลงทะเบียนและติดชิปสัตว์เลี้ยงเพื่อให้สามารถตรวจสอบเจ้าของได้น่าจะดีกว่าเพราะหากเกิดปัญหาขึ้นมา ก็สามารถเอาผิดกับเจ้าของได้
ขณะที่บางคนเห็นว่ามาตรการเก็บภาษีสุนัขและแมว ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ เพราะกฎหมายมีความเข้มงวด ช่วยแก้ปัญหาสุนัขและแมวจรจัดได้ เช่น ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี เพราะผู้เลี้ยงจะต้องขออนุญาตจากภาครัฐก่อน และต้องนำสัตว์เลี้ยงไปขึ้นทะเบียน รวมทั้งต้องจ่ายภาษีให้รัฐด้วย หากเลี้ยงหลายตัวก็ต้องจ่ายภาษีเข้ารัฐมากขึ้น แต่มาตรการนี้คงจะนำมาใช้กับสังคมไทยในเร็วๆ นี้ไม่ได้เพราะรัฐบาลยังไม่มีมาตรการแก้ไขปัญหาสุนัขและแมวจรจัดที่ดีมากพอ
