ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
การค้นพบโครงกระดูกที่มีโครงร่างประหลาด และสร้างความฮือฮาไปทั่วโลกว่า โลกค้นพบหลักฐานการมีมนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลกแล้วนั้น Spring News International ขอช่วยไขความสงสัยครับ!
มัมมี่ร่างนี้ชื่อ อาทา ถูกค้นพบตั้งแต่ปี 2012 ในเมืองลาโนเรีย ของประเทศชิลี และถูกขายต่อให้กับนักสะสมในสเปน มัมมี่ร่างนี้มีความสูงเพียง 6 นิ้ว มีขนาดเท่ากับตัวอ่อนของทารก มีลักษณะตัวสั้นผิดปกติ และมีศีรษะรูปทรงรี จนนึกว่าเป็นเอเลี่ยนและอาจนำไปสู่หลักฐานที่ว่า เคยมีมนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลก
แต่หลังจากทดสอบดีเอ็นเอจากโครงกระดูกแล้วพบว่า โครงกระดูกร่างนี้เป็นมนุษย์ ที่มีโครงร่างผิดปกติ เพราะเกิดมาจากยีนที่กลายพันธุ์ โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาได้วิเคราะห์ลักษณะทางพันธุกรรมโดยละเอียดแล้วพบว่า มัมมี่อาทาเป็นร่างของมนุษย์ที่เพิ่งเกิดและเป็นเพศหญิง นักวิทยาศาสตร์ยังตรวจพบร่องรอยพันธุกรรมของภาวะแคระแกรน กระดูกสันหลังคด และภาวะผิดปกติในกล้ามเนื้อและกระดูกอีกด้วย
ความผิดปกติอีกอย่างคือ กระดูกซี่โครงของมัมมี่อาทามีน้อยกว่าปกติ เพราะมีกระดูกซี่โครงเพียง 10 คู่ แทนที่จะเป็น 11 คู่ และจากการวิเคราะห์ทั้งหมดทั้งมวล จึงทำให้เชื่อได้ว่า โครงกระดูกนี้เป็นทารกเพศหญิง ซึ่งอาจจะคลอดออกมาแล้วเสียชีวิตทันทีหรืออาจมีอยู่ได้ไม่นานหลังจากคลอด ซึ่งหากอยู่ในยุคปัจจุบัน หากมีทารกคลอดออกมาเป็นลักษณะนี้ จะต้องเข้าไอซียูทันที
แม้ว่าการค้นพบมัมมี่รูปร่างแปลกประหลาดจนนึกว่าเป็นเอเลี่ยน จะสร้างความตื่นเต้น แต่นักวิทยาศาสตร์บอกว่า จริงๆแล้วนี่คือเรื่องเศร้าของมนุษย์ ที่ผู้เป็นแม่คนหนึ่งคลอดลูกที่มีลักษณะผิดปกติออกมา แต่เมื่อลูกเสียชีวิต จึงถูกนำไปดองให้เป็นมัมมี่
แต่เรื่องที่น่ายินดีคือ การได้ศึกษาโครงกระดูก จะช่วยพัฒนาความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะผิดปกติของกระดูก ที่เกิดจากการกลายพันธุ์ ที่ไม่เคยได้ศึกษามาก่อนในโลกนี้ และสามารถนำความรู้ไปช่วยรักษาผู้อื่นต่อได้ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี หลังจากได้ศึกษาโครงกระดูกแล้ว ทีมนักวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นว่า ควรนำมัมมี่อาทากลับไปยังประเทศที่ค้นพบ และทำพิธีฝังตามธรรมเนียมของคนท้องถิ่นต่อไป เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก https://news.nationalgeographic.com/2018/03/chile-mummy-ata-alien-dna/