อาลัย 50 ปีการจากไป ‘มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์’

เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว ที่มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ นักสู้สิทธิมนุษยชนผู้ยิ่งใหญ่ของสหรัฐฯจากโลกนี้ไป โดยเหล่าคนบันเทิงสหรัฐฯร่วมรำลึกต่อการจากไปของเขาและพูดถึงความเสมอภาคทางเชื้อชาติ นับตั้งแต่มาร์ติน ลูเธอร์ คิงถูกลอบสังหาร 1968 

"คุณรู้ไหมเราพูดถึงความยิ่งใหญ่ที่เขาทำ แต่เราไม่ทำมันต่อไป  ซึ่งผมคิดว่านี่เป็นขั้นตอนต่อไป ผมคิดว่าเราเหนื่อยที่จะพูดเกี่ยวกับมันมากพอแล้ว ตอนนี้ เราต้องเริ่มสานฝันของเขาให้เป็นจริง" กล่าวโดยเลริค เบนท์ นักแสดง

"มันหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉัน  ฉันคิดว่านั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงยืนอยู่ตรงนี้วันนี้และสามารถพูดคุยกับคุณได้อย่างอิสระ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง ทำให้ผู้คนชาวแอฟริกันเชื้อสายอเมริกันสามารถแสดงความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาแก่ทุกคนได้ ดังนั้น เราทุกคนต่างเคารพและรักมาร์ติน ลูเธอร์ คิง"กล่าวโดยคริสตัล สจ๊วต  นักแสดง

"มาร์ติน ลูเธอร์ คิง มีความหมายกับฉันยังไงหรือ เขาเป็นวีรบุรุษของเรา เขาเป็นหนึ่งในวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของเรา เป็นคนที่น่าอัศจรรย์และเป็นมรดกที่ยิ่งใหญ่"กล่าวโดยทีน่า โนวส์ แม่ของนักร้องสาวบียอนเซ่ โนวส์

"50 ปี ต่อมา เราพบว่าตัวเองยังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยุ่งยาก  เช่นเดียวกับในปี 1968  เรามีสงครามเวียดนาม เรามีคดีฆาตกรรมของมาร์ติน ลูเธอร์ คิงและบอบบี้ เคนเนดี้ และนั่นคือประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น ดังนั้น ตอนนี้ เราทุกคนที่นี่พยายามที่จะแก้ไข พยายามผลักดันความเป็นมนุษยธรรม"กล่าวโดยจอร์จ ไฟสัน นักเต้นและนักออกแบบท่าเต้น

'ข้าพเจ้ามีความฝัน' หนึ่งในวลีเลื่องลือของ 'มาร์ติน ลูเธอร์ คิง ' ที่แม้เวลาจะล่วงเลยผ่านไปแล้ว 50ปี นับตั้งแต่ที่เขาถูกลอบสังหาร วันนี้ความฝันของนักสิทธิมนุษยชนอเมริกันยังตกอยู่ในสภาวะคลุมเครือ 

มาร์ติน ลูเธอร์คิง เป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง และบาทหลวงนิกายแบปทิสต์ ในปี 1963 เขาเป็นผู้นำในการเดินขบวนอย่างสันติที่อนุสาวรีย์ลินคอล์นในกรุงวอชิงตัน ดีซี โดยมีผู้เข้าร่วมเดินมากถึง 200,000 คน ซึ่งในการประชุมครั้งนี้เอง เขาได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มีชื่อเสียงคือ “ข้าพเจ้ามีความฝัน” (I Have a Dream) และในโอกาสนี้เขายังได้ประกาศว่าอเมริกาจะปราศจากความลำเอียงและไม่มีอคติต่อคนผิวสีด้วย โดยเขาถูกลอบยิงถึงแก่ชีวิตที่เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี ในวันที่ 4 เมษายน ปี 1968