สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดประชาพิจารณ์รวมชุดสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการรวมชุดสลากเพื่อความสะดวกในการซื้อ แต่ก็ยังมองว่าไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องสลากราคาแพง ขณะที่นักวิชาการแนะนำให้ออกสลากแบบใหม่แทนระบบดั้งเดิม
วันนี้(7พ.ค.)งานสัมมนาเชิงวิชาการ "ประชาพิจารณ์สลากแบบรวมชุด" ครั้งที่ 1 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเชิญตัวแทนผู้ค้าสลาก ตัวแทนผู้ซื้อ นักวิชาการและเอ็นจีโอ ร่วมแสดงความคิดเห็น ควบคู่ไปกับการทำประชาพิจารณ์ผ่านทางเว็บไซต์ และ จดหมายเปิดผนึก โดยโฆษกสำนักงานสลากฯ เปิดเผยว่า การทำประชาพิจารณ์ออนไลน์มีผู้มาแสดงความเห็น 2,000 คน เมื่อเทียบกับผู้ที่เกี่ยวข้องกว่า 20 ล้านคนถือว่ามีจำนวนน้อย แต่เสียงส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 70 เห็นด้วยกับการจัดทำสลากแบบรวมชุด
โดยข้อมูลทั้งหมดจะรวมรวมเพื่อนำเสนอบอร์ดสลากในช่วงเดือนมิถุนายนนี้และหากได้รับความเห็นชอบจะสามารถเริ่มกระบวนการปล่อยสลากชุดได้ตั้งแต่งวดวันที่ 16 กรกฎาคมเป็นต้นไป
เบื้องต้นคาดว่าจะนำสลาก 20 ล้านฉบับ มารวมชุด ชุดละ 5 ฉบับ ส่วนอีก 60 ล้านฉบับจะขายแบบใบเดี่ยวเหมือนเดิม โดยสลากรวมชุดจะเป็นการนำสลากแบบใบเดี่ยว ราคา 80 บาท มารวมเป็นชุด 5 ใบ ซึ่งขายได้ง่ายกว่าแบบใบเดียว โดยจะกำหนดราคาขายชุดละ 400 บาท
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน เห็นว่า การจัดทำสลากรวมชุด ไม่ช่วยแก้ปัญหาสลากราคาแพง เพราะสภาพปัญหาในปัจจุบันคนที่ได้รับโควต้าไม่ขายเอง ยังคงขายผ่านคนกลาง
นายสมชาย ปัญญ์เอกวงศ์ ประธานที่ปรึกษาสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย สนับสนุนให้มีการรวมสลากเป็นชุด แต่ขอให้แยกเป็นใบเดี่ยวเพื่อจัดสรรสลากรวมชุดให้กับผู้ค้ารายย่อย เนื่องจากกระบวนการรวมชุดในปัจจุบันผู้ค้าฯ จะต้องนำสลากใบเดี่ยวไปแลกเป็นสลากชุดทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น 10 บาทต่อใบ จึงต้องขายในราคาแพง
นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เห็นด้วยกับการทำสลากรวมชุด เพราะมองว่า น่าจะช่วยแก้ไขปัญหาได้บ้าง แต่อาจจะไม่ตอบโจทย์ได้ทั้งหมด จึงแนะนำว่าควรนำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการจำหน่ายสลากฯ แทนที่จะออกสลากดั้งเดิมแบบในปัจจุบัน