ใจหาย! "เสี่ยฮุย" เผยสถานะทางการเงิน "เจ้าแหลม" กลายเป็นคนหมดตัว

ข่าวพ่ายแพ้สังเวียนรักของเจ้าแหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ยอดมวยแชมป์โลกขวัญใจชาวไทย กับ น.ส.พัชรีวรรณ กัณหา หรือน้องเก๋ ยังคงได้รับความสนใจจากแฟนมวยชาวไทย หลังมีข่าวลือว่า เจ้าแหลม เสียใจอย่างหนัก ไม่สามารถเข้าค่ายฝึกซ้อมมวยได้ในขณะนี้ และอาจส่งผลต่อการชกป้องกันแชมป์ ที่สหรัฐอเมริกา จะมีขึ้นในเดือน ส.ค.นี้

ล่าสุด นายสุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ หรือ เสี่ยฮุย โปรโมเตอร์ผู้ปลุกปั้น เจ้าแหลม ศรีสะเกษ ยืนยันว่า ได้แจ้งโปรโมเตอร์สหรัฐอเมริกา ทอม ลอฟฟ์เลอร์ ขอเลื่อนโปรแกรมชกป้องกันแชมป์ในเดือนส.ค.นี้ ไปก่อน เพราะสภาพของเจ้าแหลม ตอนนี้ ต้องเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ เนื่องจากทรัพย์สินเงินทองที่หามาได้ เช่น คอนโดมิเนียมที่รัตนาธิเบศร์ ราคา 3.7 ล้านบาท ที่ดินไร่นา เงินทองอีกหลายล้านบาท เป็นชื่อของน้องเก๋ ทั้งหมด

เสี่ยฮุย บอกอีกว่า ขณะนี้ เจ้าแหลม เหลือเงินติดตัวไม่มาก และมีรถฟอร์จูนเนอร์ที่ได้รับจากบริษัทโตโยต้า 1 คันไว้ใช้งาน แต่เล่มทะเบียนรถยังไม่เอานำออกมาจากคอนโดที่มีชื่อน้องเก๋ เป็นเจ้าของ นอกจากนี้ เจ้าแหลม จะได้เงินใช้ประจำวัน จากเบี้ยเลี้ยงซ้อมรายวันที่ค่ายจ่ายให้นักมวย

เสี่ยฮุย ยืนยันว่า แม้เจ้าแหลม จะยังเสียใจ แต่ยังรู้สึกว่า ตัวเองโชคดี ที่ยังเหลือสิ่งมีค่าไว้สร้างชีวิตใหม่ ซึ่งก็คือ เข็มขัดแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (115 ปอนด์) สภามวยโลก (WBC)

ทั้งนี้ เสี่ยฮุย ย้ำว่า เจ้าแหลม จะพักทำใจอีกไม่นาน ก่อนกลับเข้าค่ายมาฟิตซ้อมต่อ ส่วนการเปิดแถลงข่าวเรื่องน้องเก๋ เพื่อยุติปัญหาทั้งหมด คาดว่า อีก 2-3 วัน หลังจากรับรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม ของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย ในวันนี้ (14 พ.ค.) ที่โรงแรมอโนมาแกรนด์ ซึ่งเจ้าแหลมจะเข้ารับรางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยม

ขณะที่ นาย ภูมิ โกศลเสข หรือ หมาป่าคันไซ เทรนเนอร์ชื่อดัง เป็นหนึ่งในคนสนิทที่เจ้าแหลม กับ น้องเก๋ นับถือมากว่า 10 ปี เผยว่า เพิ่งได้พูดคุยกับทั้งคู่ และทราบว่า เคลียร์ปัญหาทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ไม่มีประเด็นหรือเรื่องดราม่าอะไรเกิดขึ้นอีก โดย น้องเก๋ ส่งข้อความมาขอโทษตน และแหลม รวมถึงอยากจะขอโทษผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนด้วยที่ทำให้เดือดร้อน

ด้าน "หมอแอร์" พ.ต.ท.(หญิง) อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล นักจิตแพทย์ ออกมาแสดงความเป็นห่วงเจ้าแหลม กลัวจะป่วยเป็นโรคซึมเศร้า พร้อมแนะนำวิธี คลายความทุกข์โศก ด้วยการทำใจกลับมาให้มีสติ หมั่นดูแลตัวเอง และไม่ควรปล่อยให้อยู่คนเดียว อย่าฟังเพลงเศร้า สิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือ กลับไปหาคนที่รัก กลับไปหาครอบครัวพ่อแม่ อยู่กับความเป็นจริง และต้องให้อภัยซึ่งกันและกันคิดว่าเขาไม่ใช่เนื้อคู่ของเรา