นักวิเคราะห์ชี้สิงคโปร์ได้ค่าโฆษณาฟรีมูลค่ากว่า 700 ล้านเหรียญ

ในขณะที่หลายฝ่ายกำลังถกว่าการประชุมระหว่างสองผู้นำสหรัฐฯและเกาหลีเหนือนายโดนัลด์ ทรัมป์ และ นายคิม จองอึนประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน นักวิเคราะห์ระบุว่า ดูเหมือนว่าสิงคโปร์อาจได้รับประโยชน์จากการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุม ตีเป็นมูลค่ามากกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือ 38 เท่าของต้นทุนที่ใช้จัดงาน ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้ช่วยในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว, การค้าปลีกและ การประชาสัมพันธ์

สิงคโปร์ใช้งบประมาณราว 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยครึ่งหนึ่งของงบประมาณทั้งหมดเป็นค่าใช้จ่ายด้านการรักษาความปลอดภัย ขณะที่เกือบ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นค่าใช้จ่ายด้านสื่อ ซึ่งรวมถึงการจัดเตรียมศูนย์สื่อสำหรับนักข่าว 2,500 ชีวิต แต่ในเวลาเดียวกัน  ภาพการทัวร์แหล่งท่องเที่ยวของสิงคโปร์ของผู้นำคิม ที่มารีน่า เบย์ แซนด์ โรงแรมชื่อดังของสิงคโปร์, แซนด์ สกาย พาร์ค ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวนที่สุดแห่งหนึ่งของสิงค์โปร์บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรม ก็ถูกตีพิมพ์บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์หลายฉบับเช่นกัน  ซึ่งหากประเมินแล้ว 3 วันที่ทั้งสองผู้นำอยู่ที่สิงคโปร์ สิงคโปร์ได้รับการโฆษณา คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ข่าวคราวเกี่ยวกับการจัดเตรียมการประชุมตลอดเดือนที่ผ่านมา หากประเมินเป็นค่าโฆษณา ก็อาจสูงถึง 767 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเลยทีเดียว

ด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างโรงแรม ก็ดูเหมือนจะได้รับความสนใจไม่น้อยเช่นกัน หลังพบว่า ครึ่งหนึ่งของบทความออนไลน์หรือมากกว่า 20,000 บทความ มีการกล่าวถึงโรงแรมคาเปลลา สถานที่การจัดประชุม เช่นเดียวกับ โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส ที่พักของนายคิม และ โรงแรมแชงกรีล่า สถานที่พักของผู้นำสหรัฐฯ ก็มีการพูดถึงอย่างกว้างเช่นกัน

นอกเหนือจากแวดวงสื่อแล้ว ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่า สิงคโปร์ทำรายได้จากภาคการท่องเที่ยว ประเมินจากใบเสร็จในช่วง 3 วันที่ผ่านมา  อย่างน้อย 7.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยตัวเลขผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประมาณ 4,000 พันคนที่ใช้จ่ายเงินโดยเฉลี่ย 600 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อวัน

ขณะที่บางส่วนมองว่า หากคำนวณดูแล้วผลกำไรในระยะสั้นนี้อาจหักลบกับนักท่องเที่ยวที่เลือกจะไม่เดินทางมายังสิงคโปร์ในช่วงการประชุม รวมถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นบนเกาะเซนโตซาและถนนออร์ชาร์ด อาจทำให้ผู้ซื้อสินค้า, คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยว

แม้การประชุมครั้งนี้ สิงคโปร์ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง แต่ส่วนใหญ่มองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะนี่คือการประชุมครั้งประวัติศาสตร์  และบทบาทของสิงคโปร์ในฐานะตัวกลางเจรจาสันติภาพจะได้รับการพูดถึงไปอย่างยาวนาน  และการที่สิงคโปร์กลายเป็นจุดสนใจของโลกหลายวันมานี้ มีแต่จะเป็นผลดีกับบริษัทและชาวสิงคโปร์เอง