เร่งกู้ถ้ำหลวง! อนุพงษ์ สั่งกำชับ ภารกิจช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำ

อนุพงษ์ สั่งกำชับ ภารกิจช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดาได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวสปริงนิวส์ว่า ระหว่างที่ชุดซีลเตรียมการที่จะปฎิบัติการค้นหา เราจะดำเนินการสูบน้ำตามเส้นทาง เดินสายไฟเพิ่มขึ้นไปติดทางด้านบนที่ไม่ใช่ในน้ำ ถ้าเราเดินสายไฟได้ตามแผนคือจะติดตั้งสายไฟบริเวณผนัง และจะเริ่มปั๊มน้ำให้เร็วที่สุด ถ้าสถานการณ์เอื้ออำนวยฝนไม่ตกลงมาเพิ่มหน่วยซีลก็จะเข้าปฏิบัติงาน

ปัจจุบันหน่วยซีลและหน่วยงานต่างประเทศทำงานร่วมกัน โดยมีความเห็นตรงกันว่าต้องรอระดับน้ำลดหรือถ้าสามารถสูบน้ำออกมาได้ ปริมาณน้ำสูงขึ้นมาถึงโถงด้านหน้า ส่วนที่เราจะปั๊มน้ำออกคือบริเวณที่น้ำขัเป็นแอ่ง ในเรื่องปล่องทางหน่วยงานสามารถเข้าไปได้แค่ 60 เมตร ส่วนนี้จะทำงานร่วมกันกับวิศวกรรมฐานและกรมทรัพยากรธรณีมีเครื่องมือที่จะสามารถตรวจสอบได้ว่าจะสามารถเข้าไปได้ลึกเพียงใด และนอกจากนี้ยังนำเครื่องมือมาทำแผนที่ของภูเขาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้

เหลือเพียงแต่ว่าเราจะนำเจ้าหน้าที่ไปส่งทางด้านบนถ้ำได้อย่างไร บริเวณสุดปลายถ้ำที่เลยจุดพัทยาบีสออกไปเป็นทางน้ำทั้งหมดมีปากทางน้ำออก ทางเจ้าหน้าที่กำลังวางแผนว่าจะเข้าไปอย่างไร หากเป็นทางตันจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ถ้าทำให้ปากทางถ้ำฝั่งพัทยาบีสทะลุออกไปได้เราก็ต้องทำ อีกเรื่องคือเส้นทางผาหมีในส่วนนี้ก็มีเจ้าที่อีกชุดหนึ่งคือเจ้าหน้าที่ทหารเดินทางไปเส้นทางต้นน้ำ

ตอนนี้เราจะเร่งปฏิบัติการค้นหาเชื่อว่ามีความคืบหน้า ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวว่าน้ำจะไหลออกมาทางปากถ้ำทางเดียว นอกจากนี้ทางหน่วยงานต่างๆได้แบ่งหน้าที่การทำงานของแต่ละหน่วย และตอนนี้ยังหยุดการปฏิบัติหน้าที่และรอระดับน้ำลดอย่างเดียว ส่วนทางด้านครอบครัวเราจัดสรรไปตามพื้นที่ที่เราจัดไว้ให้จะไม่ได้อยู่บริเวณถ้ำและจะมีคนคอยพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่เด็ก

ในเรื่องข่าวลือทางหน่วยงานจะพูดสถานการณ์เป็นระยะๆและไม่อยากให้เกิดข่าวลือ จะมีผู้ว่าราชการจังหวัด รองราชการจังหวัด ท่านรองแม่ทัพ หรือท่านแม่ทัพ จะเป็นคนรายงานสถานการณ์ให้ทุกท่านได้ฟัง และจะปรับแผนและเตรียมพร้อมไปตามสถานการณ์ ผู้บัญชาการพื้นที่ในที่นี้คือผู้ว่าราชการจังหวัด