สุดซึ้ง ผู้ต้องขังกราบเท้าพ่อ-แม่ สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว

สร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัวระหว่างถูกจองจำ

ผู้ต้องหาราชทัณฑ์ได้พบปะบุพการีและก้มกราบขอโทษ ซึ่งถือเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ของครอบครัวไม่ขาดหายไประหว่างถูกจองจำ ภายใต้โครงการสำนึกรักบุพการี เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา โดยมี พันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานในพิธี

สำหรับโครงการนี้จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้ต้องขังคดียาเสพติดชั้นต้องปรับปรุง ซึ่งปกติแล้วจะไม่อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมแบบใกล้ชิดมาก่อน แต่ในครั้งนี้สามารถทำได้ เพราะอยากให้ใช้พลังสายใยรัก ความผูกพัน ความอบอุ่นของคนในครอบครัว โดยเฉพาะสายสัมพันธ์ของพ่อ-แม่ เพื่อเป็นสื่อนำในการโน้มน้าวจิตใจให้เกิดสำนึกย้อนทบทวนความผิดพลาดในอดีต

กรมราชทัณฑ์ได้พิจารณาปล่อยตัวนักโทษเนื่องในโอกาสมหามงคล

ขณะเดียวกันกรมราชทัณฑ์ได้พิจารณาปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดให้พักการลงโทษและลดวันต้องโทษจำคุก ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2561 รวม 3,066 ราย ประกอบด้วย ผู้ได้รับการปล่อยตัวให้พักการลงโทษ 1,006 ราย และผู้ได้รับการปล่อยตัวโดยการลดวันต้องโทษจำคุก 2,060 ราย เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

ทั้งนี้เงื่อนไขการปล่อยตัวจะต้องเป็นผู้ต้องขังที่มีโทษไม่สูง ความประพฤติดี อยู่ในระเบียบวินัย และเหลือโทษจำคุกไม่มาก ซึ่งเมื่อออกไปแล้ว จะมีกระบวนการดูแล ติดตาม ควบคุมพฤติกรรม ซึ่งจะต้องรายงานตัวที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนั้นๆ และหากผิดเงื่อนไขก็จะจับตัวมารับโทษหนักทันที

เรือนจำชัยภูมิยังได้รับรางวัลชมรม TO BE NUMBER ONE ดีเด่น ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดชัยภูมิ นำสื่อเยี่ยมชมกิจกรรมพัฒนาผู้ต้องขังให้เป็นคนดีหลังพ้นโทษ และล่าสุดเรือนจำชัยภูมิยังได้รับรางวัลชมรม TO BE NUMBER ONE ดีเด่น ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย

นายสุพจน์ สวนอินทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า เรือนจำจังหวัดชัยภูมิ เป็นเรือนจำที่ควบคุมนักโทษทั้งชายและหญิงในทุกคดีไม่ต่ำกว่า 20 ปี ทางเรือนจำมีกระบวนการในการแยกปฏิบัติต่อผู้ต้องขังแต่ละประเภทอย่างชัดเจน เช่น ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี และผู้ต้องขังโทษเด็ดขาด เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐาน

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้เป็นอีกภารกิจหนึ่งของเรือนจำจังหวัดชัยภูมิ เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ร่วมเยี่ยมชมการปฏิบัติงาน และการดำเนินงานของเรือนจำ ตั้งแต่กระบวนการรับตัวเข้าใหม่ การควบคุมดูแลผู้ต้องขังในการจัดหาเครื่องหลับนอน ดูแลทั้งสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตจัดเตรียมอาหารที่ถูกหลักอนามัย รวมถึงให้การรักษาพยาบาลผู้ต้องขังป่วยให้ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ตลอดจนการพัฒนาพฤตินิสัย ด้านการฝึกวิชาชีพ ที่สามารถให้ผู้ต้องขังได้นำไปประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษ

สำหรับกิจกรรมอีกกิจกรรมหนึ่งที่ถือว่าโดดเด่นคือ กิจกรรมโครงการทูบีนัมเบอร์วัน TO BE NUMBER ONE โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เพื่อพัฒนาจิตใจของผู้ต้องขังและการแก้ไขปัญหายาเสพติด คืนคนดีสู่สังคม มีสมาชิกทั้งหมด 1,781 คน จัดกิจกรรม 5 วัน และมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น กิจกรรมปรับทุกข์ สร้างสุข แก้ไขปัญหาพัฒนา EQ และการให้ผู้ต้องขังมีส่วนร่วมแสดงความสามารถทั้งในด้านดนตรี ศิลปะ

ซึ่งล่าสุดเรือนจำจังหวัดชัยภูมิได้รับรางวัลชมรม TO BE NUMBER ONE ดีเด่น ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือและได้ร่วมเข้าแข่งขันในระดับประเทศที่อิมแพคเมืองทองธานี เป็นการให้โอกาสต่อผู้ต้องขังทุกคนเป็นคนดีกลับคืนสู่สังคมหลังพ้นพ้นโทษออกไป