ลุ้นกันต่อไป!! เปิดเงื่อนไขโอกาส “ชบาแก้ว” ทะลุรอบ 2 เอเชี่ยนเกมส์

ทัพ “ชบาแก้ว” ทำผลงานในการแข่งขันฟุตบอลเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ได้ไม่ค่อยดีนัก หลังพลาดท่าพ่ายให้กับคู่แข่งในรอบแรก ทั้ง 2 เกม เริ่มจากแพ้ ญี่ปุ่น 0-2 และแพ้ให้กับ เวียดนาม ในนัดชี้ชะตาเข้ารอบ 2-3  ทำให้ไม่มีแม้แต่คะแนนเดียว โดยยิงได้ 2 ประตู เสีย 5 ประตู ทำให้ประตูได้เสียติด -3

อย่างไรก็ตามฝ่ายจัดการแข่งขันได้ระบุเอาไว้ว่า ในกลุ่มของไทย ถึงแม้จะมีแค่ 3 ทีม แต่ ไทย ก็ยังได้ลุ้นเข้ารอบเป็นทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 2 ทีมจาก 3 กลุ่ม ส่วนในกลุ่ม เอ และกลุ่ม บี ที่มี 4 ทีม จะไม่มีการนับคะแนนผลการแข่งขันที่เจอกับทีมอันดับสุดท้ายในการวัดคะแนนอันดับ 3 ที่ดีที่สุด ซึ่งจะนับผลการแข่งขันเฉพาะที่เจอกับอันดับ 1 และ 2 ของกลุ่มเท่านั้น ส่งผลให้ “ชบาแก้ว” จะยังได้ลุ้นเข้ารอบ 2 แต่ผลการแข่งขันของทีมในกลุ่ม เอ และกลุ่ม บี จะต้องมีเงื่อนไขดังนี้

เงื่อนไขแรก ในเกมกลุ่มเอ วันที่ 21 ส.ค. ถ้า อินโดนีเซีย จะต้องแพ้ เกาหลีใต้ ทัพ “ชบาแก้ว” จะเข้ารอบทันที เพราะถ้าตัดคะแนนที่พบทีมอันดับสุดท้ายของกลุ่มออกไป อินโดนีเซีย จะมี 0 คะแนนเท่ากับ ไทย แต่ผลประตูได้เสียตอนนี้ อินโดนีเซีย ติดลบ -4  ส่วน ไทย ติดลบ -3  ทำให้ ไทย จะเข้ารอบ

เงื่อนไขสอง ในเกมกลุ่มบี วันที่ 20 ส.ค. ฮ่องกง จะต้องแพ้ เกาหลีเหนือ และ ทาจิกิสถาน จะต้องแพ้  จีน และ เกมอีกคู่ในวันที่ 22  ส.ค. ระหว่าง ฮ่องกง กับ ทาจิกิสถาน จะต้องมีผลแพ้-ชนะด้วยด้วยประตูที่ไม่สูง จะทำให้ ไทย เข้ารอบด้วยผลต่างประตูได้-เสียที่ดีกว่าเหมือนกัน โดยทั้ง 2 เงื่อนไขเกิดขึ้นเพียงแค่ เงื่อนไขเดียว ไทย ก็จะเข้ารอบทันที

สำหรับ โปรแกรมการแข่งขันในกลุ่มเอ จะแข่งขันในวันที่ 21 ส.ค. อินโดนีเซีย จะพบกับ เกาหลีใต้ และ ไต้หวัน พบ มัลดีฟส์ ในเวลาเดียวกัน 18.30 น. ส่วนโปรแกรมในกลุ่มบี นัดที่ 2 ทาจิกิสถาน พบกับ จีน และฮ่องกง พบ เกาหลีเหนือ ในเวลาเดียวกัน 18.30 น. ขณะที่โปรแกรมนัดที่ 3 กลุ่มบี จะแข่งในวันที่ 22 ส.ค. เกาหลีเหนือ พบ จีน และฮ่องกง พบ ทาจิกิสถาน ในเวลาเดียวกัน 18.30 น.