“ดาบิด อกานโซ” ประธานสมาคมนักฟุตบอลอาชีพสเปน หรือ “เอเอฟอี” เปิดเผยว่า นักเตะในลีก อาจตัดสินใจหยุดงานประท้วง กรณีที่ลา ลีกา จะนำเกมลีกบางเกม ออกไปเตะกันในประเทศสหรัฐอเมริกา
สัปดาห์ที่ผ่านมา “ลาลีกา” ประกาศว่าได้บรรลุข้อตกลงกับ Relevent บริษัทธุรกิจบันเทิงและสื่อกีฬาชื่อดัง ในการนำโปรแกรมลีกสูงสุดของสเปน โยกไปเล่นในสหรัฐอเมริกา ฤดูกาลละ 1 เกม เป็นเวลา 15 ปี ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่เกมลา ลีกา ไม่ได้เล่นบนแผ่นดินของประเทศสเปน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดความไม่พอใจจากหลายภาคส่วน โดยสมาคมลูกหนังแดนกระทิงดุ เคยแถลงการณ์คัดค้านอย่างเต็มกำลังแล้ว และบรรดานักเตะของแต่ละทีม ก็อาจจะมีมาตรการตอบโต้ที่เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม หลัง “เอเอฟอี” นัดประชุมเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา เพื่อหารือถึงข้อเสนอต่อลีก โดยมีทั้ง “เซร์คิโอ รามอส” กัปตันทีม “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด และ “เซร์คิโอ บุสเกตส์” ยอดมิดฟิลด์ของ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา เข้าร่วมในที่ประชุมด้วย
ประธานเอเอฟอี เปิดเผยหลังการประชุมว่า “ผู้เล่นต่างก็โมโหและแปลกใจมาก ทุกคนไม่เห็นด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์ ผู้เล่นไม่อยากไปเล่นต่างประเทศ มันต้องทำอะไรให้ไปในทางเดียวกันกว่านี้ ใช้คอมมอนเซนส์กว่านี้”
“การตัดสินใจในระดับนี้ ที่ส่งผลกระทบทั้งผู้เล่น, ผู้ตัดสิน และแฟนบอลมากขนาดนี้ เป็นการตัดสินใจฝ่ายเดียว และขาดความเคารพต่อกัน”
“ผมมีข้อมูลว่าบางสโมสรพร้อมหยุดงานประท้วง บางสโมสรก็คัดค้าน แต่ผมเองเป็นตัวแทนของผู้เล่นทั้งหมด เราต้องหาทางออกกันในสหภาพ และเราจะบอกปัญหาของเราทั้งหมดแก่พวกเขา ถ้าจากนั้นไปสักสองสามวัน แล้วยังไม่มีคำตอบ เราก็จะต้องจัดการกับสถานการณ์นี้”
“เราจะพยายามไม่ให้เรื่องมันไปสุดทางขนาดนั้น แต่ก็พร้อมจะใช้มาตรการขั้นสุดหากจำเป็น ข้อตกลงที่ลา ลีกา ไปทำมา ไม่ได้ปรึกษากับใครเลย มันแสดงถึงความไม่เคารพต่อกัน”
“มันไม่ใช่แค่เกมหนึ่งเกม ในแง่สภาพร่างกายและการเดินทาง ไม่เมคเซนส์เลยที่อยู่ๆ จะมีเกมหนึ่งต้องไปเล่นในสหรัฐฯ และต้องมีทีมหนึ่งทิ้งเกมเหย้าตัวเองไป จะให้คนคนเดียวมาเซ็นสัญญา 15 ปีแบบนี้ไม่ได้ สัญญาที่ส่งผลกระทบต่อคนมากมาย โดยไม่มีการหารือกันเลย เราเหลือทนแล้วกับการกระทำที่ไม่เห็นหัวอย่างนี้”
ขอบคุณภาพจาก LaLiga