ฟีฟ่า ตัดสินใจลงโทษแบน ชิบริล ราชูบ ประธานสมาคมฟุตบอลปาเลสไตน์ เป็นเวลา 12 เดือน หลังจากปลุกระดมแฟนบอลให้เผาเสื้อ ลีโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังชาวอาร์เจนติน่า
บีบีซี สื่อชื่อดังของอังกฤษ รายงานว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ตัดสินใจลงโทษแบน ชิบริล ราชูบ ประธานสมาคมฟุตบอลปาเลสไตน์ห้ามยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางฟุตบอลเป็นเวลา 12 เดือน ปรับเงินอีก 20,000 ฟรังก์สวิส หรือประมาณ 670,000 บาท หลังจากเจ้าตัวไปปลุกระดมแฟนบอลให้เผาเสื้อ และรูปภาพของ ลีโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังชาวอาร์เจนติน่า หลังจาก เมสซี่ จะนำทัพ “ฟ้าขาว” มาเตะฟุตบอลนัดกระชับมิตรกับ อิสราเอล ประเทศที่มีปัญหาทางการเมืองมายาวนานกับ ปาเลสไตน์ ก่อนฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย จะเริ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามเกมดังกล่าวก็ได้ถูกยกเลิกไป เนื่องจาก ราชูบ ได้ส่งหนังสือถึงสมาคมฟุตบอลอาร์เจนติน่าให้ยกเลิกเกมดังกล่าว เพราะทาง ปาเลสไตน์ มองว่า การที่ อิสราเอล สั่งย้ายสนามจากเมืองไฮฟา ไปแข่งขันยังเมืองเยรูซาเล็ม แสดงให้เห็นว่า อิสราเอลต้องการเล่นเกมทางการเมือง เพื่อตอกย้ำสถานะกรุงเยรูซาเลม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล เข้าข่ายหาผลประโยชน์จากการกีฬา
นอกจากนี้ ราชุบ ยังออกมารณรงค์ให้ชาวปาเลสไตน์ รวมถึงแฟนบอลที่เป็นอาหรับและมุสลิม ออกมาประท้วงการแข่งขันนัดนี้ และยิ่งไปกว่านั้นยังปลุกเร้าให้แฟนบอลเผาเสื้อแข่งทีมชาติอาร์เจนติน่าของ เมสซี่ โดยไม่มุ่งหวังจะทำให้ เมสซี่ เสียชื่อเสียง แต่เพราะ เมสซี่ เป็นสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลปัจจุบัน และเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ