สหรัฐฯเริ่มใช้มาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่วันนี้

มาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนของสหรัฐฯครั้งนี้นับเป็นรอบที่สามของปีแล้ว และนับเป็นครั้งใหญ่สุด เป็นการเก็บภาษีนำเข้า 10 เปอร์เซ็นต์ต่อสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างเฟอร์นิเจอร์, กระดาษชำระ, เครื่องปรุงอาหาร หรือแม้แต่อาหารทะเลอย่างหอยเชลล์ รวมมูลค่าถึง 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภค ขณะที่จีนก็ประกาศจะตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ 5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์กับสินค้าสหรัฐฯอย่างเนื้อสัตว์, สารเคมี, ชิ้นส่วนรถยนต์ รวมมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์

รัฐบาลสหรัฐฯอ้างว่ามาตรการภาษีเป็นการตอบโต้ที่จีนทำการค้าอย่างไม่เป็นธรรม อย่างเช่นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา แน่นอนว่าจีนปฏิเสธ และกล่าวว่าสหรัฐฯกำลังใช้นโยบายปกป้องทางการค้า และจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯรวมมูลค่ากว่าหนึ่งแสนล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ สหรัฐฯยังขู่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรวมมูลค่า 267,000 ล้านดอลลาร์เพิ่มอีก นั่นหมายความว่ามาตรการของสหรัฐฯจะครอบคลุมสินค้าจีนที่ส่งออกไปสหรัฐฯเกือบทั้งหมด

นักวิเคราะห์ระบุว่า ขณะที่จีนนำเข้าสินค้าสหรัฐฯน้อยกว่าส่งออก จีนอาจตอบโต้ด้วยมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าอีกก็เป็นได้ จำกัดโควต้านำเข้า และจำกัดการเดินทางของชาวจีนไปยังสหรัฐฯเพื่อการศึกษาหรือการท่องเที่ยว

สถานการณ์ความสัมพันธ์การค้าส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจในเอเชียตกต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี จากการสำรวจมุมมองของ 104 บริษัทกับอนาคตเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นใน 6 เดือนข้างหน้า ความเชื่อมั่นร่วงลงจากไตรมาสก่อนหน้ามากที่สุดตั้งแต่เริ่มทำการสำรวจในปี 2009 และเหตุผลที่บริษัทส่วนใหญ่ขาดความเชื่อมั่น ก็เพราะสงครามการค้าที่กำลังตึงเครียด รองลงมาคือเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัว และความผันผวนของค่าเงิน