"สุเทพ" ลั่น พรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้เป็นรัฐบาลแน่ ยัน! ไม่ขอรับตำแหน่ง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชาชาติไทย ลงพื้นที่ ตลาดปัฐวิกรณ์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร เพื่อชักชวนประชาชนมาแสดงเจตจำนงเป็นสมาชิกพรรค เตรียมพร้อมก่อน กกต.รับรองความเป็นพรรคการเมือง มีประชาชนมารอแสดงเจตจำนงจำนวนมาก และรอให้การตอนรับนายสุเทพ ซึ่งทันทีที่นายสุเทพเดินทางมาถึง เสียงนกหวีดก็ดังขึ้น พร้อมแฟนคลับ กปปส.ก็ได้นำรูปที่ถ่ายกับนายสุเทพและตุ๊กตารูปนายสุเทพมา ขอลายเซ็นและถ่ายรูปคู่ บางคนก็ให้เซ็นชื่อกับเสื้อที่ใส่มา ทั้งนี้ระหว่างถ่ายภาพกับประชาชน

จากนั้น นายสุเทพ ได้พูดกับประชาชน ขออย่าลืมสิ่งที่เคยต่อสู้ด้วยกันมาในเวที กปปส. เพื่อทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะการปฏิรูป โดยเฉพาะการปฏิรูปการเมืองที่ต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นอันดับแรก ให้ได้ผลดีที่มาจากการเลือกตั้ง พร้อมกันนี้นายสุเทพยังให้ความมั่นใจว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะได้เป็นรัฐบาลอย่างแน่นอน เพราะพรรคมีประชาชนนับล้านคน ดังนั้นใครก็อยากคบหาและอยากให้เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ขอประกาศไว้เลย แต่ส่วนตัวจะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆในรัฐบาลขอเป็นเพียงลุงกำนันแก่ๆที่ช่วยงานพรรคเท่านั้น

การลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ใช่การหาเสียง เพราะไม่มีเนื้อหาที่เชิญชวนให้มาเลือก เพียงแต่ชี้แจงให้เข้าใจว่าเหตุใดจึงต้องมีพรรคการเมืองของประชาชน ส่วนการถูกกล่าวหาเป็นเรื่องธรรมดา แต่หากมีการฟ้องร้องก็จะนำก็จะขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนนำบันทุกเสียงไปต่อสู้ ด้วยข้อเท็จจริง พร้อมย้ำว่ามั่นใจจะได้เป็นรัฐบาลอย่างแน่นอน เพราะพรรครวมพลังประชาชาติไทยเป็นพรรคการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริงใครที่เป็นรัฐบาลก็อยากเชิญไปร่วมรัฐบาลด้วยและจะเป็นโอกาสที่จะได้เจรจานำเงื่อนไขเรื่องการปฏิรูปของพรรคไปปฏิบัติ

ทั้งนี้ ไม่ขอมองพรรคการเมืองใดเป็นคู่แข่ง แล้วตัวเองก็จะไม่ประกาศเป็นคู่แข่งใคร และไม่มองว่าจะเป็นการตัดคะแนนของพรรคพลังประชารัฐ ส่วนที่มี 4 รัฐมนตรีในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไปร่วมพรรคพลังประชารัฐ นั้น ส่วนตัวมองว่าอะไรที่ไม่ขัดต่อกฎหมายก็ไม่รังเกียจ เพราะประชาชนที่ต้องตัดสิน ไม่ใช่ให้นักการเมืองมาตัดสินกันเอง

สำหรับพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้จดจัดตั้งพรรคกับ กกต. ตั้งแต่เดือนสิงหาคม คาดว่า กกต. จะรับรองความเป็นพรรคประมาณช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ จากนั้นก็จะเดินหน้ารับสมัครสมาชิกอย่างเป็นทางการโดยให้ผู้ที่แสดงเจตจำนงไว้ได้มายืนยันและจ่ายค่าบำรุงพรรคตามที่กฎหมายกำหนด