บิ๊กตู่สั่งทบทวนร่าง พ.ร.บ.ไซเบอร์ หลังกระแสโซเชียลตีกลับรุนแรง

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรม ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเสนอร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เข้าสู่ที่ประชุมครม. เพราะอยู่ระหว่างฟังความคิดเห็น ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนในมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ และหลังจากรับฟังความคิดเห็นเสร็จสิ้นแล้ว จากนั้นจะส่งร่าง พ.ร.บ.นี้เสนอเข้าที่ประชุมครม. และส่งต่อไปยังสนช. ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่มีการลักไก่ลัดขั้นตอน ตามที่มีกระแสข่าวออกมา

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งโลกกำลังตระหนักถึงเรื่องดังกล่าว เพราะภัยจากไซเบอร์มีอยู่มาก โดยเรื่องนี้มีเส้นกั้นระหว่างการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการกระทำผิดกฎหมาย จึงจำเป็นต้องมีกฎหมายกลางออกมา ดังนั้น จึงขออย่าให้มองเพียงว่ารัฐบาลจะเข้าไปปิดกั้น อีกทั้งบทลงโทษก็เอาผิดเฉพาะผู้ที่กระทำความผิดเท่านั้น

ด้านพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยัน ครม.ยังไม่ได้พิจารณาเรื่อง ดังกล่าว โดยนายกฯ รับทราบถึงความกังวลของประชาชน พร้อมสั่งการให้ฝ่ายกฎหมายไปดูแลเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งหลักการของกฎหมายไซเบอร์จะใช้กับผู้ที่กระทำความผิด ไม่ใช่การนั่งเฝ้าหรือแอบล้วงข้อมูลของผู้อื่น และเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลจะออกกฎหมายในลักษณะนั้น

ทั้งนี้ สำหรับร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ มีประเด็นสำคัญ อาทิ การขยายนิยามคำว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถล้วงลึกไปถึงข้อความการโพสต์ การแชตผ่านอินเทอร์เน็ต ไอโฟน ไอแพด สมาร์ทโฟน โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ แค่อ้างเหตุอันควรสงสัยกระทบความมั่นคงของประเทศ สามารถเจาะทะลุข้อมูลส่วนตัวคนไทย 67 ล้านคนได้

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังมีอำนาจสามารถบุกค้นไม่ต้องมีหมายศาล สั่งยึดคอมพิวเตอร์ได้ทันที กำหนดโทษหนักฝ่าฝืนจำคุก 3 ปี ปรับ 3 แสนบาท โดยนักวิชาการเกรงว่า สุ่มเสี่ยงขัดหลักสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ 7 เพราะหากกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้รัฐบาลจะสามารถควบคุมเนื้อหาในโซเชียลมีเดียได้เบ็ดเสร็จ