“นักมวยเด็ก” ชีวิตสุดเสี่ยง “สมองพัง-ไอคิวต่ำ”

คำตอบนี้ นายแพทย์อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์ว่า ตามพ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ระบุว่าถ้าเป็นผู้เยาว์อายุน้อยกว่า 15 ปี พ่อแม่ผู้ปกครองต้องเป็นผู้ให้การอนุญาต รวมถึงให้สังกัดค่ายมวยด้วย จึงจะสามารถทำนิติกรรมได้ แต่หากอายุต่ำกว่า 15 ปี ถ้าจะชกต้องขออนุญาตนายทะเบียนสมาคมมวย พร้อมกับสวมใส่เครื่องชก แต่ในทางปฏิบัติไม่มีการดำเนินการใดๆ เรื่องของความปลอดภัย ส่วนหนึ่งยอมรับ กีฬามวยถูกทำให้เป็นธุรกิจท้องถิ่น ธุรกิจในต่างจังหวัด  มีการดำเนินการตามวิถีชีวิตคนไทย จนพูดว่า เป็นวิถีอาชีพในศิลปวัฒนธรรมไทย

นพ.อดิศักดิ์ กล่าวว่า  ต้องยอมรับว่ามวยเป็นกีฬาแพ้ชนะตัดสินจากคะแนนที่ได้มาจากการกระทำคือชกอีกฝ่ายกีฬามวยไม่มีตัวเลขอายุไหนที่มีความปลอดภัย ไม่ว่าผู้ชกเริ่มอายุเท่าไรเป็นเด็กผู้ใหญ่คนชกล้วนต้องรับรู้ความเสี่ยงแลกกับการหารายได้

“แต่สิ่งที่ต้องถามคือ เด็กอายุเท่าไร ถึงให้เขาตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง เด็กก่อนอายุวัยรุ่น เสี่ยงสูงเมื่อมาชกมวย สภาพสมองจะเสียหายเรื่อยๆ ไอคิวต่ำก่อนเข้าสู่วัยรุ่น เหตุศีรษะและกะโหลกหุ้มจะไม่แข็งแรงเท่าผู้ใหญ่ เมื่อเขาถุกกระทบกระเทือน และเด็กเล็กยังไม่มีวุฒิภาวะในการตัดสินใจด้วยตัวเอง เขาจึงเดินหน้าชกอย่างเดียว ซึ่งเด็กจะชกด้วยความกตัญญู หาเงินเลี้ยงดูครอบครัว ดูแลส่งเสียตัวเอง เป็นการจัดการโดยผู้ใหญ่ทั้งสิ้น” นพ.อดิศักดิ์ กล่าวและว่า การลงเอยที่ต้องจะเกิดความเสียหายของสมองระยะยาว เป็นสิ่งจำเป็นที่เด็กต้องได้รับการปกป้อง

ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว แนะแนวทางด้วยว่า พ.ร.บ.มวย จึงควรจัดและดำเนินการให้เด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี ชกมวยในแบบโชว์ลีลาดีกว่า ในวงการกีฬาต้องช่วยกัน เจตนารมณ์คิดว่าถ้าอยากเป็นนักมวยอายุต่ำกว่า 12 ห้ามปะทะ ส่วนอายุ 12-15 ปี ให้ใส่เครื่องชก เช่นเฮดการ์ด และให้ปรับกติการการให้คะแนนใหม่ เช่น การให้คะแนนของกีฬาเทควันโด อนุญาตให้เตะเฉี่ยวใบหน้า แต่หากรุนแรงเตะกระแทกใบหน้าอย่างแรง ก็ถูกปรับให้แพ้ เป็นต้น