ประชาชนทั่วไทย แห่กดเงินสดจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 500 บาท จากรัฐบาลกันต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยัน เงินเข้าบัญชีแล้วไม่เอาคืน จะเบิกมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องไปต่อแถวเพื่อแย่งกัน
ในพื้นที่ จ.พะเยา บริเวณตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยเต็มไปด้วยประชาชน นำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เข้าต่อแถวตรวจสอบยอดเงิน ที่ทางภาครัฐโอนให้ แต่เงินดังกล่าวบางคนยังไม่มีการโอนมา บางคนกดไม่เป็นต้องอาศัยคนอื่นกดให้ ส่วนปัญหาที่พบ ส่วนใหญ่ประชาชนใช้บัตรกดเงินแล้วบัตรไม่ทำรายการให้ เงินไม่ออก อีกทั้งคนสูงอายุจำรหัสไม่ได้ ต้องรอวันเปิดทำการของธนาคารจึงจะไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ คาดว่าวันเปิดทำการคนจะแน่นธนาคาร
ต่อกันที่ จ.พังงา ชาวบ้านบางคนเหมารถ เหมาเรือ จากหมู่บ้านเข้าติดต่อธนาคารเพื่อกดเงินสด จนเจ้าหน้าที่ออกมาประชาสัมพันธ์ให้ผู้ถือบัตรเข้าใจว่า รัฐบาลจะโอนเงินเข้าระหว่างวันที่ 8 – 10 ธ.ค. ตามรหัสตัวหน้าของเลขบัตรประชาชนในแต่ละวัน ซึ่งหลังจากเงินเข้าภายในบัตรแล้ว ถึงจะสามารถกดเงินได้ไม่เฉพาะระหว่างวันดังกล่าวเท่านั้น ด้วยความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนทำให้คนแห่กันออกมากดเงินจำนวนมาก จึงขอแจ้งว่าผู้ถือบัตรสามารถกดเงินได้ทุกวันหลังจากเงินเข้าแล้ว
ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประชาชนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เดินทางมายัดตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย ทุกตู้ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เพื่อกดเงินสด 500 บาท บรรยากาศคึกคักตั้งแต่ ช่วงเช้า ขณะที่ตู้เอทีเอ็มบางจุดเงินสดหมดตู้แล้ว ขณะที่พื้นที่ อ.สุไหงปาดี มีประชาชนมารอกดเงินสดจำนวนมากเช่นเดียวกัน
ขณะที่ จ.ยะลา จากการสังเกตเช้านี้ พบว่า ทุกตู้ATM มีชาวบ้าน เข้าคิวกดเงิน ตั้งแต่เช้าตรู่ 05.00น. หนึ่งในชาวบ้าน บอกว่า ตัวเองรู้ว่าเงินเข้าเนื่องจากมีSMS แจ้งเตือน จึงรีบมากดเงินทันที โดยเงินที่ได้จะนำไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ และซื้อของบ้าน จำพวก น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ ข้าวสาร และน้ำดื่ม ส่วนตัวมองว่าเป็นโครงการที่ดี ที่รัฐบาลมองเห็นความลำบากของประชาชน
ด้าน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. แนะให้ผู้มีรายได้น้อยวางแผนการใช้จ่ายในช่วงปลายปีอย่างเหมาะสม เช่น ซื้อสินค้าที่จำเป็นสำหรับครอบครัว หรือใช้เป็นค่าเดินทางกลับภูมิลำเนา หลังรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่าย 500 บาท เข้าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อี-มันนี่) แล้ว ตั้งแต่วันที่ 8-10 ธ.ค. โดยสามารถกดเป็นเงินสดไปใช้จ่ายเมื่อใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องกดภายใน 3 วันนี้
โดยนายกฯ ย้ำว่า การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย จะต้องทำแบบครบวงจร ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ทั้งนี้สำหรับค่าเดินทางไปรักษาสุขภาพ ผู้สูงอายุ 1,000 บาทต่อคน จะเริ่มจ่ายตั้งแต่ 21 ธ.ค. ค่าเช่าบ้านผู้สูงอายุ 400 บาท ต่อคนต่อเดือน ตั้งแต่ 12 ธ.ค. ส่วนค่าไฟฟ้าและค่าน้ำ ตั้งแต่ 18 ก.พ.