"ศรีสุวรรณ" ร้องระงับบัตรเลือกตั้งไม่มีโลโก้พรรคการเมือง ชี้ทำปชช.สับสน-เกิดผิดพลาดได้ [คลิป]

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้าร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ และ ศาลปกครอง วินัยนิจฉัยกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอให้ไม่พิมพ์โลโก้พรรคการเมืองในบัตรเลือกตั้ง และ กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดทำบัตรเลือกตั้งมีแค่หมายเลข และ ช่องกาบัตร ถือว่าเป็นการแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือไม่ โดยมีนายวทัญญู ทิพยมฌฑา รองเลขาธิการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เป็นผู้รับเรื่องดังกล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า จากการที่มีการประชุมแม่น้ำ 5 สาย นำโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ที่สโมสรกองทัพบกที่ผ่านมา โดยมีการเปิดเผยในการประชุม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เสนอในที่ประชุม ให้บัตรเลือกตั้งที่จะใช้ในการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561 นี้ มีแค่หมายเลขและช่องกาบัตรเท่านั้น โดยไม่ต้องมีโลโก้พรรคการเมืองหรือชื่อพรรคการเมืองปรากฏอยู่ในบัตร

โดยการไม่พิมพ์โลโก้พรรคการเมืองในบัตรเลือกตั้งตนเองเห็นว่า อาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และ อาจเกิดความผิดพลาดขณะกาบัตรเลือกตั้งได้ เนื่องจากการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ผู้สมัครพรรคเดียวกันในแต่ละเขตจะได้เบอร์แตกต่างกัน จึงอาจทำให้เกิดความสับสน และ ถ้าไปตัดโลโก้พรรคการเมือง และ ชื่อพรรคออกจากบัตรเลือกตั้ง จะยิ่งเพิ่มปัญหาการจดจำและการพิจารณาของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการทุจริต หรือ โกงการเลือกตั้งขึ้นได้ อีกทั้งการกระทำดังกล่าวยังผิดต่อหลักสากลที่ต่างประเทศทำกัน และ อาจทำให้ไม่เกิดความความเป็นธรรมในการเลือกตั้ง

ซึ่งในวันนี้จึงได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนผู้ตรวจราชการแผ่นดินใช้อำนาจพิจารณาเสนอ พร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ ศาลปกครอง เพื่อวินิจฉัยว่า การคณะกรรมการการเลือกตั้งจะกำหนดบัตรเลือกตั้งโดยไม่มีโลโก้พรรคการเมือง และ ชื่อพรรคจะผิดหลักรัฐธรรมนูญ และ กฎหมายหรือไม่ รวมถึงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดทำบัตรเลือกตั้งมีแค่หมายเลข และ ช่องกาบัตร ถือเป็นการแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือไม่

ด้าน เลขาธิการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า เรื่องนี้ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาแล้ว แต่ต้องทำไปตรวจสอบกฎระเบียบข้อบังคับดูว่า เข้าข่ายความผิดใดหรือไม่ หากพบว่าเข้าข่ายการกระทำผิดก็จะดำเนินการส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญ และ ศาลปกครองพิจารณาต่อไป